ดูแลตัวเองหลังเสริมจมูก ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ผู้สนใจเข้ารับการเสริมจมูกควรรู้และศึกษา เพราะผลลัพธ์จะออกมาดีหรือปลอดภัยหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลตนเองของผู้เข้ารับบริการเช่นกัน
โดยหลังจากที่ผู้เข้ารับบริการได้ทำการเสริมจมูกเพื่อให้ได้รูปร่างที่สวยงามและเหมาะสมกับใบหน้าของตนเองแล้ว การดูแลตัวเองในช่วงฟื้นตัวเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะช่วยให้ผลลัพธ์ที่ได้สมบูรณ์และยาวนานยิ่งขึ้น ซึ่งการปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้องก็จะช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน เร่งการฟื้นฟู และทำให้จมูกใหม่ของทุกคนดูสวยเป๊ะในทุกมุมมอง พร้อมเผยผลลัพธ์ที่คุ้มค่ากับการรอคอยนั่นเอง
ดูแลตัวเองหลังเสริมจมูก ด้วยขั้นตอนที่ถูกต้อง แชร์ทริคดูแลจมูกหลังเสริมให้ปลอดภัย จาก Solaris Clinic
“จมูก” เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของใบหน้า การมีจมูกที่เล็กเกินไป ใหญ่เกินไป ผิดรูป หรือเบี้ยวเอียง ทั้งตั้งแต่กำเนิด หรือ เกิดจากอุบัติเหตุ ทำให้เสียบุคลิก ทำให้ขาดความมั่นใจในการทำงาน การเข้าสังคม ดังนั้น การทำศัลยกรรมเสริมจมูกจะสามารถปรับโครงสร้างของจมูกให้เกิดความสมดุล รับกับรูปหน้า ด้วยเทคนิคการผ่าตัดในปัจจุบันจึงเป็นแนวทางแก้ไขที่ช่วยตอบโจทย์ในการแก้ไขปัญหาจมูกดังกล่าวได้อย่างตรงจุดและยังช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ฟื้นตัวไว และผลข้างเคียงน้อยอีกด้วย อย่างไรก็ตาม เทคนิคศัลยกรรมเสริมจมูกนั้นมีอยู่หลากหลายวิธีด้วยกัน ซึ่งจะมีอะไรบ้าง และแต่ละเทคนิคมีข้อดีอย่างไร มาติดตามไปพร้อม ๆ กัน
เสริมจมูก คือ…
ศัลยกรรมเสริมจมูก (Rhinoplasty) คือ การผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อตกแต่งรูปทรงจมูกให้โด่งขึ้น สวยงามขึ้นเพื่อปรับโครงสร้างของจมูกให้เกิดความสมดุล รับกับรูปหน้า โดยในปัจจุบันการศัลยกรรมเสริมจมูกมีเทคนิคที่หลากหลาย ตั้งแต่ เสริมด้วยซิลิโคน (Silicone) การตกแต่งปีกจมูก การผ่าตัดจมูกแบบเปิด ( Open Technique) การใช้กระดูกอ่อนหลังใบหู กระดูกอ่อนซี่โครง รวมถึงการใช้ไขมัน ผิวหนังของตัวคนไข้เอง หรือเนื้อเยื่อเทียมมาช่วย โดยวัสดุแต่ละชนิดถือว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
เสริมจมูกเจ็บไหม อันตรายหรือเปล่า?
ต้องบอกก่อนว่า การเสริมจมูก นั้น แม้จะเป็นการผ่าตัดศัลยกรรมใหญ่ แต่ในระหว่างการผ่าตัดจะมีการใช้ยานอนหลับหรือยาชา ซึ่งคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บขณะทำ แต่ในช่วงพักฟื้นอาจมีอาการช้ำหรือระบมตามปกติและอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
อย่างไรก็ตาม จากที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า การเสริมจมูก เป็นการผ่าตัดศัลยกรรมใหญ่ ถึงคนไข้จะไม่มีอาการเจ็บในระหว่างการผ่าตัด แต่แน่นอนว่าต้องมีความเสี่ยง รวมไปถึงผลข้างเคียงต่าง ๆ ที่สามารถตามมาได้ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเสริมจมูก ควรเข้าพบแพทย์ก่อนเพื่อที่แพทย์จะได้ให้คำปรึกษาและประเมินความเสี่ยง ให้โอกาสในการซักถามข้อสงสัย จากนั้นจึงร่วมกันตัดสินใจในการผ่าตัด เพื่อการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดและผลลัพธ์ที่คนไข้พึงพอใจที่สุด
ใครที่เหมาะสำหรับการเสริมจมูก
ก่อนทำจมูกเพื่อปรับรูปทรงให้โด่งขึ้น สวยขึ้น หรือเก็บปีกจมูกให้แคบลง ควรสังเกตตัวเองว่าอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถทำจมูกได้หรือไม่ ดังนี้…
- ชายและหญิงที่มีปัญหาหรือต้องการปรับโครงสร้างจมูกให้รับกับรูปหน้าเพื่อความสวยงาม
- อายุ 18 ปีขึ้นไป
- ไม่มีความผิดปกติเกี่ยวกับการหายใจ บางกรณีอาจต้องผ่านการตรวจโดยแพทย์หูคอจมูก ก่อนผ่าตัด
- ไม่ได้อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่อาจส่งผลต่อการผ่าตัด เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
ทั้งนี้ จะคนไข้จะสามารถเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมจมูกได้หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ในแต่ละเคสด้วยเพราะปัญหาของคนไข้แต่ละคนอาจไม่เหมาะกับการเข้ารับการศัลยกรรมเสมอไป ดังนั้น ทางที่ดีก่อนทำคือควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้ประเมินและขอคำแนะนำที่เหมาะสมนั่นเอง
ขั้นตอนการเสริมจมูก
สำหรับขั้นตอนการเสริมจมูก ในแต่ละเทคนิคจะมีขั้นตอนที่แตกต่างกันออกไป แต่สำหรับขั้นตอนเบื้องต้นจะประกอบด้วย…
- ให้ยาชาหรือยานอนหลับ โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินว่าจะใช้ยาชาหรือยาชาร่วมกับยากล่อมประสาท เช่น หากใช้เทคนิคการผ่าตัดแบบเปิดจะต้องใช้การวางยานอนหลับโดยวิสัญญีแพทย์ ส่วนการผ่าตัดแบบปิดจะเป็นการฉีดยาชาเฉพาะจุด เป็นต้น
- ในกระบวนการผ่าตัดเสริมจมูก แพทย์จะใช้เทคนิคที่แตกต่างกันไปเพื่อแก้ไขตามปัญหาของแต่ละเคส เช่น เหลาซิลิโคน การเปิดแผล ปรับโครงสร้าง ตกแต่ง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง
- เย็บปิดแผลผ่าตัด หรือในบางกรณีแพทย์อาจให้เข้าเฝือกที่จมูก ซึ่งใช้เวลาพักฟื้น 5-7 วัน ระหว่างนี้คนไข้สามารถดูแลทำความสะอาดแผลได้ด้วยตัวเอง ก่อนนัดมาติดตามผลและตัดไหม
ซึ่งจากที่บอกไปว่า ขั้นตอนต่าง ๆ เหล่านี้เป็นเพียงขั้นตอนเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งสถานให้บริการแต่ละที่อาจมีขั้นตอนที่มากและน้อยต่างกันไป ขึ้นอยู่กับมาตรการของทางคลินิกรวมถึงดุลพินิจและเทคนิคของแพทย์แต่ละท่านด้วย
6 วิธีดูแลตัวเองหลังเสริมจมูก ยิ่งดูแลดี แผลยิ่งหายง่าย ไร้อาการบวม ลดความเสี่ยงเรื่องผลข้างเคียง
หลังจากเข้ารับการผ่าตัดแล้ว สิ่งที่สำคัญมาก ๆ คือการดูแลตนเองของคนไข้ในช่วงพักฟื้น ซึ่งควรปฏิบัติตามคำแนะนำและข้อดูแลเบื้องต้นอย่างเคร่งครัด ดังนี้…
1. ประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการบวม
การประคบเย็นในช่วง 1-2 วันหลังการผ่าตัดเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการช่วยลดอาการบวมที่เกิดขึ้นหลังการเสริมจมูก เนื่องจากการใช้ความเย็นสามารถช่วยจำกัดการขยายตัวของหลอดเลือด ซึ่งจะทำให้เลือดไหลเวียนช้าลงและลดการสะสมของของเหลวในบริเวณที่ได้รับการผ่าตัด การประคบเย็นยังช่วยลดอาการเจ็บปวดและอักเสบในระหว่างกระบวนการฟื้นตัวได้อีกด้วย
วิธีที่แนะนำคือการใช้ถุงน้ำแข็งหรือเจลเย็นที่ห่อด้วยผ้าบาง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสเย็นโดยตรงกับผิวหนัง เนื่องจากอาจทำให้ผิวไหม้จากความเย็นได้ ควรประคบเย็นเป็นระยะเวลาประมาณ 15-20 นาทีแล้วพักระหว่างการประคบ
หลังจาก 4-5 วันเมื่อแผลเริ่มสนิทแล้ว สามารถใช้การประคบอุ่นเพื่อลดรอยช้ำได้ การใช้ความร้อนจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและลดการเกิดรอยดำหรือฟกช้ำ โดยสามารถใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นหรือแผ่นเจลอุ่นในการประคบได้
2. หลีกเลี่ยงอาหารบางชนิด
การควบคุมอาหารในช่วงหลังการเสริมจมูกเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้นและลดอาการบวม การหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสจัดหรือร้อนเกินไปเป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะอาจกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดทำให้เกิดอาการบวมที่บริเวณจมูกหรือใบหน้าได้
- อาหารร้อน เช่น ซุปที่เพิ่งต้มเสร็จหรือเครื่องดื่มที่ร้อนมาก อาจทำให้ร่างกายของเรารู้สึกร้อนเกินไป ซึ่งอาจกระทบต่อกระบวนการฟื้นฟูหลังผ่าตัด
- อาหารที่เผ็ดหรือเค็ม เช่น พริกและอาหารที่มีเกลือสูง อาจทำให้ร่างกายสะสมของเหลวมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอาการบวมมากขึ้นและยืดระยะเวลาการฟื้นตัวได้
นอกจากนี้ การดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงนี้ยังสามารถส่งผลเสียต่อการฟื้นตัว เนื่องจากแอลกอฮอล์ทำให้เลือดไหลเวียนเร็วขึ้นและอาจทำให้แผลหายช้าลงหรือทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
3. งดสูบบุหรี่ก่อนในช่วงแรก
การงดสูบบุหรี่ก่อนและหลังการเสริมจมูกมีความสำคัญเป็นอย่างมากในการสนับสนุนการฟื้นฟูหลังผ่าตัด เนื่องจากบุหรี่มีสารนิโคตินและสารพิษอื่น ๆ ที่อาจลดการไหลเวียนของเลือดไปยังบริเวณที่ได้รับการผ่าตัด ซึ่งจะทำให้แผลหายช้าลงและเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ
การสูบบุหรี่ยังอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวในระยะยาว เนื่องจากการสูบจะลดการออกซิเจนในเลือด ทำให้เซลล์และเนื้อเยื่อที่อยู่บริเวณที่ได้รับการผ่าตัดขาดสารอาหารที่จำเป็นในการซ่อมแซม
แนะนำให้หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ก่อนการผ่าตัดอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ และในระยะหลังผ่าตัดควรงดสูบจนกว่าศัลยแพทย์จะอนุญาต
4.ปรับระดับศีรษะช่วงเวลานอน
เนื่องจาก การปรับระดับศีรษะขณะนอนหลับหลังการเสริมจมูกมีความสำคัญต่อกระบวนการฟื้นตัวของเนื้อเยื่อและการลดอาการบวมหลังผ่าตัด เพราะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและลดการสะสมของของเหลวในบริเวณจมูกและใบหน้าให้ดีมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ การปรับระดับศีรษะและรักษาท่านอนที่เหมาะสมเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การฟื้นตัวหลังเสริมจมูกเป็นไปอย่างราบรื่น ทั้งยังช่วยป้องกันการเสียหายต่อจมูกและลดอาการไม่พึงประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง
5. งดนอนคว่ำหรือตะแคง
การนอนคว่ำหรือตะแคงในช่วงแรกหลังการเสริมจมูกอาจส่งผลเสียต่อรูปร่างของจมูกที่เพิ่งได้รับการผ่าตัด เนื่องจากอาจทำให้เกิดแรงกดทับหรือเคลื่อนตำแหน่งของจมูกไปจากที่วางแผนไว้ การนอนในท่าหงายจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในช่วงฟื้นตัว
นอกจากนี้ การนอนในท่าคว่ำหรือตะแคงอาจทำให้เกิดการบวมมากขึ้นในบริเวณจมูกและใบหน้า ซึ่งจะยืดระยะเวลาการฟื้นตัวและอาจมีผลต่อการหายของแผลได้
การนอนในท่าหงายโดยการหนุนหมอนสูงและใช้หมอนรองรอบตัวเพื่อป้องกันการพลิกตัวในระหว่างนอนหลับเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
6. เลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ
พฤติกรรมเสี่ยงบางประการสามารถส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์ของการเสริมจมูกและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น
- การสวมแว่นบริเวณสันจมูก: การใส่แว่นอาจกดทับที่จมูก ซึ่งส่งผลกระทบต่อรูปร่างของจมูกใหม่และอาจทำให้เกิดอาการบวมที่ไม่จำเป็น ควรหลีกเลี่ยงการสวมแว่นในช่วง 1-2 สัปดาห์หลังการผ่าตัดหรือใช้แว่นแบบแขวนที่ไม่กดทับบริเวณสันจมูก
- การสั่งน้ำมูกแรง ๆ: การสั่งน้ำมูกแรง ๆ หรือการขยับจมูกอย่างรุนแรงสามารถทำให้เกิดแรงกระแทกต่อจมูกที่ยังไม่เข้าที่และอาจทำให้แผลเปิดหรือเกิดอาการบวมเพิ่มขึ้น
- การอยู่ในที่ที่มีฝุ่นหรือมลพิษ: การสัมผัสกับฝุ่นหรือมลพิษในอากาศอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและการอักเสบในบริเวณจมูก จึงควรหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีฝุ่นหรือมลพิษและสวมหน้ากากอนามัยหากจำเป็นต้องออกจากบ้าน
การดูแลหลังการเสริมจมูกอย่างรอบคอบและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดจะช่วยให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างราบรื่นและให้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว ทั้งนี้ นอกจากที่ได้บอกไปว่าการดูแลตนเองหลังผ่าตัดนั้นสำคัญมาก ๆ ซึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการเลือกคลินิกหรือแพทย์ผู้ชำนาญการที่เจ้าเข้ามาดูแลเคส เพราะถ้าหากเลือกผิด คลินิกไม่ได้มาตรฐานหรือแพทย์ไม่มีประสบการณ์ ก็จะทำให้เกิดผลเสียกับจมูกของเราในอนาคตได้ ดังนั้น ควรพิจารณาเลือกคลินิคอย่างรอบคอบเพื่อป้องกันเหตุดังกล่าวไม่ให้เกิดขึ้น
เสริมจมูก กับ Solaris Clinic ด้วยเทคนิคเฉพาะกับแพทย์ผู้ชำนาญการ
สำหรับข้อมูลที่ได้กล่าวมาทั้งหมดนั้นเป็นข้อมูลเบื้องต้นที่คนไข้ทุกคนต้องทราบก่อนตัดสินใจและเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งนอกจากนี้ ที่ Solaris Clinic ของเราก็มีรูปแบบการผ่าตัดและเทคนิคต่าง ๆ ที่นำมาใช้และคนไข้ควรได้ศึกษาไว้เช่นเดียวกัน โดยมีรายละเอียดต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
เสริมจมูก ที่ Solaris Clinic มีกี่แบบ อะไรบ้าง?
สำหรับเทคนิคการเสริมจมูกที่ทาง Solaris Clinic ของเรานำมาใช้ ประกอบด้วย 3 เทคนิคหลัก ดังนี้…
1.การเสริมจมูกแบบปิด (Closed Rhinoplasty)
คือเทคนิค การผ่าแบบปิด ซึ่งทำการเปิดแผลเพียง ข้างเดียว และใส่ซิลิโคน เข้าไป จากนั้นเย็บปิดแผล โดยวิธีนี้ จะตกแต่งได้น้อยกว่า Semi Open แต่ยังสามารถเพิ่ม Option ได้ เช่น อินเตอร์โดม ตะไบฮัมพ์ เป็นต้น
2.การเสริมจมูกแบบเปิดแผลทั้ง 2 ข้าง (Semi-Open)
คือเทคนิค การผ่าแบบกึ่งเปิด ในรูจมูกทั้งสองด้าน และใส่ซิลิโคนเข้าไปเหมือนแบบ Close เพียงแต่ว่าวิธีนี้ คุณหมอจะสามารถเห็นโครงสร้างจมูกได้ชัดเจน และทำให้ตกแต่งได้มากขึ้น รวมไปถึงลดความตึงของเนื้อจมูกซึ่งทำให้ จมูกมีความโด่งพุ่งได้มากกว่า การเสริมจมูกแบบ Close
3.การเสริมจมูกแบบ SLR (Solaris Technique)
คือเทคนิคพิเศษเฉพาะ Solaris Clinic ด้วยวิธีที่คุณหมอ ออกแบบดีไซน์และปรับจมูกตั้งแต่ฐานไปจนถึงปลายจมูกเพื่อให้ได้ความเหมาะสม ทั้งเรื่องของ ความโด่ง พุ่ง และองศา ที่เข้ากับ Golden Ratio Face แบบสมดุลจะทำให้ มีจมูกที่เข้ารับกับใบหน้าและดูเป็นธรรมชาติมากกว่าที่อื่น
อย่างไรก็ตาม การเสริมจมูกทั้ง 3 รูปแบบนี้ เป็นการผ่าตัดเบื้องต้นที่ทาง Solaris ของเราเปิดให้บริการ ซึ่งคนไข้แต่ละเคสจะถูกประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับรูปแบบการผ่าตัดอย่างละเอียดต่อไป ทั้งนี้ คนไข้บางละเคสอาจจะต้องมีการนำเทคนิคเสริมอื่น ๆ เข้ามาช่วยด้วยเพื่อให้ผลลัพธ์ของการเสริมจมูกที่จะออกมาได้รับการแก้ไขที่ตรงจุดและเป็นที่น่าพึงพอใจมากที่สุด
ทำไมต้องเสริมจมูก ที่ Solaris Clinic
เพราะเราใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่ ลูกค้าจอง ไปจนถึงวันที่ทำ และ ยัง Follow up ทุกเคสอีก ตั้งแต่ 1-6 เดือนเพื่อให้ความสบายใจ และ ความปลอดภัย ทางคลินิกจะเตรียมความพร้อมให้พนักงานทุกคน สามารถรับคำปรึกษา และ รับปัญหาเบื้องต้นของคนไข้หลังทำ ส่งให้คุณหมอทราบ และแนวทางปฏิบัติ ดังนั้น เราจึงตอบได้เต็มเสียงว่า เราใส่ใจในทุกขั้นตอนหากถามเรื่องความสวย ความงามของงานศัลยกรรม ทางเราจะให้ทางคนไข้ ตัดสินและเลือกเราด้วยตนเอง
Solaris Clinic พร้อมบริการทั้ง 6 สาขา ได้แก่...
อุดรธานี ขอนแก่น โคราช กรุงเทพ(บางนา) ชลบุรี(อมตะ) อุบลราชธานี(ใหม่)