พิเศษ! โปรเสริมจมูกราคาพิเศษ 7,900 บาท

หนังตาเยอะทำยังไงดี? รวมวิธีแก้ไขให้ดวงตาดูสดใสไม่ง่วงอีกต่อไป

หนังตาเยอะทำยังไงดี? เชื่อได้ว่าเป็นคำถามที่ผู้ประสบปัญหากำลังต้องการคำตอบกันอยู่อย่างแน่นอน ซึ่งต้องบอกก่อนว่า แม้หากมองเผิน ๆ แล้ว ปัญหาหนังตาเยอะ อาจไม่ได้ส่งผลอันตรายอะไรต่อสุขภาพในช่วงแรก แต่ต้องบอกก่อนว่าปัญหานี้ส่งผลต่อบุคลิกของผู้ประสบปัญหาได้อย่างโดยตรงและทำให้สูญเสียความมั่นใจในการใช้ชีวิตปะจำวันเป็นอย่างมากทีเดียว ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลาย ๆ คนจะมีคำถามนี้เพื่อแก้ไขปัญหาของตนเองให้ดีขึ้น

หนังตาเยอะทำยังไงดี ไม่อยากดูง่วงตลอดเวลา

มีใบหน้าที่สดใส ปัญหานี้แก้ได้ยังไง Solaris Clinic มีคำตอบ!

เชื่อได้ว่าหลาย ๆ คนอาจเคยส่องกระจกแล้วรู้สึกว่าดวงตาของตัวเองดูง่วง เหนื่อยล้า หรือเหมือนคนไม่ได้นอน ทั้งที่ในความเป็นจริงพักผ่อนเพียงพอแล้ว ปัญหานี้อาจเกิดจาก “หนังตาเยอะ” ซึ่งส่งผลให้ดวงตาดูหม่นหมอง ขาดเสน่ห์ และขาดความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน

บทความนี้จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจถึงสาเหตุของหนังตาเยอะ พร้อมแนะนำวิธีแก้ไขอย่างตรงจุด ทั้งแบบธรรมชาติและเทคนิคทางการแพทย์ เพื่อให้ดวงตากลับมาดูสดใส มีชีวิตชีวาอีกครั้ง

มาดูกันก่อน สาเหตุของหนังตาเยอะ มีอะไรบ้าง?

หนังตาเยอะไม่ใช่แค่ปัญหาเรื่องความสวยงามเท่านั้น แต่ยังสามารถส่งผลต่อความมั่นใจ บุคลิกภาพ และแม้กระทั่งการมองเห็นในบางกรณี โดยสาเหตุของหนังตาเยอะสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย ดังนี้…

ในบางคน หนังตาเยอะเป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด หรืออาจพบว่ามีสมาชิกในครอบครัวที่มีลักษณะหนังตาหนา หนังตาตก หรือมีชั้นตาซ้อนหลายชั้นตั้งแต่อายุน้อย โดยลักษณะนี้อาจไม่ส่งผลชัดเจนในวัยเด็ก แต่เมื่ออายุมากขึ้น ความหย่อนคล้อยจะเริ่มเด่นชัดมากขึ้น ทำให้ดูเหมือนมี “หนังตาเยอะ” มากขึ้นในช่วงวัยกลางคนหรือวัยผู้ใหญ่ตอนต้น

เมื่อเราอายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินลดลง ซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญที่ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นและกระชับ โดยบริเวณรอบดวงตาเป็นจุดที่ผิวหนังบอบบางมาก จึงเกิดความหย่อนคล้อยได้ง่าย ส่งผลให้หนังตาบนเริ่มตก และเกิดรอยย่นหรือหนังส่วนเกินพับซ้อนกัน ส่งผลให้ดวงตาดูเล็กลง เหนื่อยล้า และไม่สดใสนั่นเอง

ไลฟ์สไตล์บางอย่างในชีวิตประจำวันก็สามารถเร่งให้หนังตาหย่อนเร็วกว่าปกติได้ เช่น…

  • นอนดึกเป็นประจำ : ทำให้ระบบฟื้นฟูผิวทำงานไม่เต็มที่
  • ขยี้ตาบ่อย ๆ : การเสียดสีบริเวณเปลือกตาจะทำให้ผิวบริเวณนั้นหย่อนคล้อยเร็ว
  • ใช้สายตากับหน้าจอนาน ๆ : ทำให้กล้ามเนื้อรอบดวงตาเมื่อยล้า และการไหลเวียนของเลือดช้าลง ส่งผลให้เกิดการบวมและหนังตาหนัก
  • ไม่ล้างเครื่องสำอางอย่างถูกวิธี : สะสมสิ่งตกค้างและเพิ่มโอกาสการอักเสบ

โดยในบางกรณี หนังตาเยอะอาจเกิดจากปัญหาทางการแพทย์ เช่น…

  • ภาวะเปลือกตาตก : เป็นอาการที่กล้ามเนื้อยกเปลือกตาอ่อนแรง ทำให้หนังตาปิดลงมาเกินปกติ
  • ภูมิแพ้เรื้อรัง : ส่งผลให้เกิดการบวมรอบดวงตาเรื้อรัง และเนื้อเยื่อรอบดวงตาหย่อนลง
  • อาการบวมน้ำ : มักเกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือการกินเค็มเกินไป ซึ่งทำให้บริเวณรอบดวงตาดูบวมและหนังตาหนักมากขึ้น
จากสาเหตุทั้งหมดที่กล่าวมา ทุกคนจะสามารถเห็นได้แล้วว่า “หนังตาเยอะ” สามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น กรรมพันธุ์ที่ถ่ายทอดกันในครอบครัว, ความเสื่อมของผิวตามวัย, พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ที่เรามองข้าม เช่น การนอนน้อยหรือขยี้ตาบ่อย ๆ รวมถึง โรคหรือภาวะบางอย่าง ที่ส่งผลโดยตรงต่อเปลือกตา เช่น ภาวะเปลือกตาตกหรือภูมิแพ้เรื้อรัง การทำความเข้าใจต้นเหตุของหนังตาเยอะจะช่วยให้สามารถเลือกแนวทางการดูแลหรือรักษาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น

หนังตาเยอะแก้ยังไงดี?

รวมวิธีแก้ไขที่ได้ผลที่คนมีปัญหาหนังตาควรรู้จัก
หากเราเริ่มสังเกตว่าดวงตาของตัวเองดูง่วง หย่อนคล้อย หรือเหมือนมีหนังตาทับชั้นตา จนเริ่มกังวลว่าจะมีวิธีที่จะแก้ไขปัญหานี้ได้หรือไม่ ซึ่งต้องบอกเลยว่ามีหลายวิธีที่สามารถช่วยให้ดวงตากลับมาดูสดใส และแก้ไขหนังตาเยอะได้อย่างปลอดภัยและเห็นผล ซึ่งประกอบด้วย…

เริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการดูแลตนเองในชีวิตประจำวัน โดยไม่ต้องพึ่งพาวิธีทางการแพทย์

  • พักผ่อนให้เพียงพอ : นอนวันละ 7–8 ชั่วโมง เพื่อให้ผิวรอบดวงตาฟื้นฟูได้เต็มที่
  • ลดการใช้สายตากับหน้าจอเป็นเวลานาน : ควรพักสายตาทุก 20 นาที โดยมองไกลประมาณ 20 ฟุต เป็นเวลา 20 วินาที
  • หลีกเลี่ยงการขยี้ตาแรง ๆ : เพื่อลดการเสียดสีและความเสียหายต่อเนื้อเยื่อรอบดวงตา
  • ใช้ครีมบำรุงรอบดวงตาอย่างสม่ำเสมอ : เน้นส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เช่น ไฮยาลูรอน วิตามินซี เปปไทด์ หรือคาเฟอีน เพื่อลดบวมและยกกระชับ

เป็นวิธีง่าย ๆ ที่สามารถทำเองได้ที่บ้าน เหมาะสำหรับผู้ที่มีหนังตาหย่อนเพียงเล็กน้อย

  • ประคบร้อนเย็นสลับกัน : ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ลดบวม และฟื้นฟูความยืดหยุ่นของผิว
  • นวดรอบดวงตาเบา ๆ : ใช้นิ้วนางนวดเบา ๆ เป็นวงกลมบริเวณใต้คิ้วและหางตา ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนและลดอาการบวม
  • มาส์กตาด้วยวัตถุดิบธรรมชาติ : เช่น แตงกวา ที่ช่วยลดบวมและเพิ่มความชุ่มชื้น, ว่านหางจระเข้ ที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและให้ความชุ่มชื้น และถุงชาคาโมมายล์ ซึ่งมีคุณสมบัติผ่อนคลายและลดการระคายเคือง เป็นต้น

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลชัดเจน รวดเร็ว และอยู่ได้นาน :ซึ่งมีหลากหลายวิธีด้วยกัน เช่น…

  • ทำตาสองชั้น : แก้ปัญหาชั้นตาไม่ชัด หนังตาตก หรือหนังตาปิดชั้นตา ให้ดวงตาดูโตและสดใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
  • เลเซอร์กระชับเปลือกตา : (เช่น โปรแกรม Ulthera หรือ โปรแกรม Thermage Eye) โดยจะเป็นการใช้คลื่นพลังงานกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ช่วยยกกระชับหนังตาอย่างไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีหนังตาหย่อนในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง
  • ฉีดโปรแกรมโบท็อกซ์บริเวณหน้าผากหรือหางตา : ลดการทำงานของกล้ามเนื้อที่ดึงเปลือกตาลง ช่วยให้หนังตาดูยกขึ้น และลดรอยย่นบริเวณรอบตา
  • ศัลยกรรมตัดหนังตาส่วนเกิน : เป็นการผ่าตัดนำหนังตาส่วนเกินและไขมันส่วนเกินออก เหมาะกับผู้ที่มีหนังตาเยอะมากจนบดบังการมองเห็น หรือรู้สึกว่าหนังตาทำให้ดวงตาดูง่วงเสมอ
ทั้งนี้ สำหรับผู้มีปัญหาหนังตาเยอะ ไม่ว่าจะเกิดจากอายุ พฤติกรรม หรือกรรมพันธุ์ ปัจจุบันมีวิธีดูแลและแก้ไขได้หลากหลาย ตั้งแต่การ ปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน และ ดูแลผิวรอบดวงตาอย่างสม่ำเสมอ, ใช้วิธี ธรรมชาติ เพื่อช่วยให้ผิวดูตึงกระชับ ไปจนถึง เทคนิคทางการแพทย์ เช่น การทำตาสองชั้น เลเซอร์กระชับ หรือศัลยกรรมตัดหนังตาส่วนเกิน ซึ่งสามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับระดับความหย่อนคล้อยของหนังตาและความต้องการส่วนตัว เพื่อให้ดวงตากลับมาดูสดใสและเสริมความมั่นใจได้อีกครั้ง

วิธีเลือกวิธีแก้หนังตาเยอะให้เหมาะกับตัวเอง ทำยังไง?

การเลือกวิธีแก้ไขปัญหาหนังตาเยอะไม่ควรตัดสินใจจากกระแสหรือความนิยมเพียงอย่างเดียว แต่ควรพิจารณาอย่างรอบด้านเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัย เห็นผลจริง และเหมาะกับตัวเองมากที่สุด โดยสามารถประเมินได้จากปัจจัยสำคัญต่อไปนี้…
หากหนังตาหย่อนเพียงเล็กน้อย อาจเริ่มจากการดูแลด้วย วิธีธรรมชาติ หรือการใช้ ครีมบำรุงรอบดวงตา ควบคู่กับการ เลเซอร์กระชับผิว เช่น โปรแกรม Thermage หรือ โปรแกรม Ulthera แต่ถ้าหากหนังตาหย่อนคล้อยมาก จนส่งผลต่อการมองเห็นหรือบุคลิกภาพ การทำศัลยกรรมตัดหนังตาส่วนเกิน (Upper Blepharoplasty) อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า เป็นต้น

ช่วงวัยมีผลต่อความยืดหยุ่นของผิวและการฟื้นตัวหลังการรักษา เช่น…

  • คนวัย 20–30 ปี อาจยังสามารถใช้วิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด เช่น การฉีดโบท็อกซ์หรือเลเซอร์
  • คนวัย 40 ปีขึ้นไป มักมีหนังตาหย่อนคล้อยตามธรรมชาติ อาจต้องพิจารณาวิธีผ่าตัดร่วมด้วยเพื่อให้ผลลัพธ์ชัดเจนและยาวนานขึ้น

แต่ละวิธีมีค่าใช้จ่ายต่างกัน เช่น….

  • การใช้ครีมบำรุงและมาส์กตา มีต้นทุนต่ำและเหมาะสำหรับการดูแลระยะยาว
  • เลเซอร์กระชับผิวและโบท็อกซ์มีราคาปานกลาง เห็นผลเร็ว แต่ต้องทำซ้ำเป็นระยะ
  • ศัลยกรรมตัดหนังตา เป็นวิธีที่ได้ผลชัดเจนและอยู่ได้นานที่สุด แต่มีค่าใช้จ่ายสูงและต้องพักฟื้น
หากคุณต้องการเพียงให้ดวงตาดูสดใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ วิธีไม่ผ่าตัด เช่น โบท็อกซ์ เลเซอร์ หรือนวดกระชับผิว อาจเพียงพอ แต่ถ้าเป้าหมายคือการเปลี่ยนรูปตาหรือแก้ไขปัญหาที่เป็นมาก เช่น หนังตาบดบังการมองเห็น การผ่าตัดจะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและถาวรกว่า

แม้จะมีข้อมูลให้ศึกษาได้ด้วยตัวเอง แต่อย่างไรก็ตาม การเข้ารับการประเมินกับแพทย์ผู้มีประสบการณ์เฉพาะทาง หรือ จักษุแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านความงาม จะช่วยให้คุณได้รับคำแนะนำที่ปลอดภัย ตรงจุด และเหมาะสมกับสภาพตาของคุณมากที่สุด ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้อีกด้วย

ท้ายที่สุด ขอเน้นย้ำอีกครั้งว่า สำหรับใครที่กำลังเผชิญกับปัญหาหนังตาเยอะ ไม่ต้องกังวลไป เพราะปัจจุบันมีหลายวิธีที่สามารถช่วยให้ดวงตาของคุณกลับมาดูสดใส ไม่ง่วง ไม่เหนื่อยอีกต่อไป ทั้งการดูแลตนเองในชีวิตประจำวันและการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย เพียงเลือกวิธีที่เหมาะกับคุณที่สุด ดวงตาคู่สวยก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป

เสริมตาสองชั้น แก้ปัญหาหนังตาเยอะ ที่ Solaris Clinic

การทำตาสองชั้นที่โซลาริสคลินิกเป็นขั้นตอนเสริมความงามที่ช่วยให้ดวงตาดูโดดเด่นและมีเสน่ห์มากขึ้น ด้วยการออกแบบชั้นตาให้สอดคล้องกับโครงหน้าและบุคลิกเฉพาะตัว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและสวยงาม ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของคลินิกจะใส่ใจในรายละเอียดการผ่าตัด เพื่อให้ชั้นตาที่ได้ดูไม่หลอกตาและช่วยเสริมให้ดวงตาดูกลมโต ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนหวานและสดใสยิ่งขึ้น การทำตาสองชั้นนี้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้รับบริการ ทำให้รู้สึกดีและพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกโอกาส

การเสริมคางที่โซลาริสคลินิกมีจุดเด่นที่โดดเด่นในการปรับโครงหน้าให้ดูสมดุลและเสริมความมั่นใจให้กับลูกค้า โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูงจะทำการประเมินรูปหน้าของแต่ละบุคคลอย่างละเอียดเพื่อออกแบบทรงคางที่เข้ากับโครงหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังใช้เทคนิคที่ทันสมัยและปลอดภัย เพื่อให้ผลลัพธ์ดูเรียบเนียน ไม่เห็นรอยแผล ทำให้คางมีรูปทรงที่สวยงามและเข้ากับใบหน้าโดยรวมได้อย่างลงตัว การบริการที่ใส่ใจในรายละเอียดและการออกแบบเฉพาะบุคคล ทำให้การเสริมคางที่โซลาริสคลินิกตอบโจทย์ทั้งด้านความสวยงามและความมั่นใจในตนเอง

ศัลยกรรมตาสองชั้นที่โซลาริสคลินิกเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับให้ดวงตาดูมีมิติและโดดเด่นมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีเปลือกตาหนา ตาตี่ หรือมีชั้นตาที่ไม่ชัดเจน ซึ่งอาจทำให้ดวงตาดูเล็กหรืออิดโรย ศัลยกรรมนี้ยังเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหนังเปลือกตาหย่อนคล้อยหรือมีไขมันสะสม ทำให้ชั้นตาดูไม่เรียบร้อยหรือไม่สม่ำเสมอ การศัลยกรรมตาสองชั้นที่โซลาริสคลินิกช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ ทำให้ดวงตาดูกลมโตและมีความสดใส อีกทั้งยังช่วยเสริมความมั่นใจและทำให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนเยาว์และสดชื่นขึ้น

( รีวิว ตาสองชั้น จาก Solaris Clinic )

Solaris Clinic ศัลยกรรมตาสองชั้น ปรับดวงตาให้สวยดังใจ

เพราะเราใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่ ลูกค้าจอง ไปจนถึงวันที่ทำ และ ยัง Follow up ทุกเคสอีก ตั้งแต่ 1-6 เดือนเพื่อให้ความสบายใจ และ ความปลอดภัย ทางคลินิกจะเตรียมความพร้อมให้พนักงานทุกคน สามารถรับคำปรึกษา และ รับปัญหาเบื้องต้นของคนไข้หลังทำ ส่งให้คุณหมอทราบ และแนวทางปฏิบัติ ดังนั้น เราจึงตอบได้เต็มเสียงว่า เราใส่ใจในทุกขั้นตอนหากถามเรื่องความสวย ความงามของงานศัลยกรรม ทางเราจะให้ทางคนไข้ ตัดสินและเลือกเราด้วยตนเอง

Solaris Clinic พร้อมบริการทั้ง 6 สาขา ได้แก่...

อุดรธานี ขอนแก่น โคราช กรุงเทพ(บางนา) ชลบุรี(อมตะ) อุบลราชธานี(ใหม่)

บทความล่าสุด

© 2024 Maxideastudio. All Rights Reserved.