“เข้าเฝือกจมูก” นั้น ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญและจำเป็นต่อคนไข้เป็นอย่างมากหลังจากการเข้ารับการเสริมจมูก เนื่องจากเฝือกจมูกช่วยพยุงโครงสร้างใหม่ของจมูกให้คงรูป ลดอาการบวม และป้องกันการกระทบกระเทือนที่อาจส่งผลต่อผลลัพธ์ของการศัลยกรรม อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจรู้สึกกังวลเกี่ยวกับระยะเวลาที่ต้องใส่เฝือกจมูก โดยเฉพาะหากต้องใช้ชีวิตประจำวัน พบปะผู้คน หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงพักฟื้น แล้วจริง ๆ แล้ว การเข้าเฝือกจมูกใช้เวลานานแค่ไหน? หากไม่อยากใส่เฝือกนาน จะมีวิธีดูแลตัวเองอย่างไรให้จมูกเข้าที่เร็วขึ้น? มาหาคำตอบจากคำแนะนำจาก Solaris Clinic พร้อม ๆ กัน
เข้าเฝือกจมูก ต้องใช้เวลานานแค่ไหน
ดูแลยังไงให้ผลลัพธ์ออก มาสวยตามที่คาดหวัง?
จากที่กล่าวไปข้างต้นว่า หลังจากการผ่าตัดศัลยกรรมจมูก หนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้จมูกเข้าที่และฟื้นตัวได้ดีคือการเข้าเฝือกจมูก แต่หลายคนอาจสงสัยว่าเฝือกจมูกต้องใส่นานแค่ไหน? และหลังจากถอดเฝือกออกแล้ว ต้องดูแลตัวเองอย่างไรเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามตามที่คาดหวัง?
การเข้าเฝือกจมูกไม่ใช่เพียงแค่ป้องกันการกระแทกหรือช่วยพยุงโครงสร้างจมูกเท่านั้น แต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดอาการบวม อักเสบ และส่งเสริมให้เนื้อเยื่อเชื่อมต่อกันได้อย่างเหมาะสม ดังนั้น การดูแลตัวเองในช่วงที่มีเฝือกจมูกและหลังจากที่ถอดเฝือกออกไปแล้ว จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
ในบทความนี้ Solaris Clinic จะพาผู้อ่านมาดูว่าเฝือกจมูกต้องใส่นานแค่ไหน และมีวิธีดูแลตัวเองอย่างไร เพื่อให้ผลลัพธ์หลังการเสริมจมูกฟื้นตัวได้ดีที่สุด และให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามสมบูรณ์แบบตามที่ทุกคนต้องการ

เฝือกจมูกคืออะไร?
ทำไมต้องใส่เฝือกจมูก?
หลังจากการผ่าตัดศัลยกรรมจมูก โครงสร้างของจมูกอาจยังไม่คงที่และอาจเกิดการเปลี่ยนรูปได้ง่าย เฝือกจมูกช่วยให้กระดูกและกระดูกอ่อนอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ลดความเสี่ยงของการผิดรูปหรือการบิดเบี้ยว
ในช่วงแรกหลังการผ่าตัด จมูกมักมีอาการบวมและอักเสบ เฝือกจมูกช่วยกดทับให้เนื้อเยื่ออยู่กับที่ ลดการคั่งของเลือดและของเหลวบริเวณจมูก ทำให้อาการบวมลดลงเร็วขึ้น
เฝือกจมูกทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการกระแทกหรือแรงกดทับที่อาจทำให้รูปทรงจมูกเสียหาย โดยเฉพาะในช่วงแรกหลังจากการผ่าตัด
การใส่เฝือกช่วยให้เนื้อเยื่อและกระดูกอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ส่งผลให้ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บน้อยลง และช่วยให้ฟื้นตัวได้อย่างราบรื่น
จากทั้ง 4 ข้อที่กล่าวมา ทุกคนจะเห็นแล้วว่าการใส่เฝือกจมูกเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้การรักษาหลังผ่าตัดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในแง่ของการคงรูปทรงจมูก ลดอาการบวม ป้องกันการกระแทก และช่วยบรรเทาความเจ็บปวด
ดังนั้น การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และดูแลเฝือกจมูกอย่างเหมาะสมจะช่วยให้ผลลัพธ์ของการรักษาออกมาสมบูรณ์และเป็นไปตามที่คาดหวังด้วย
ประเภทของเฝือกจมูก
1. เฝือกจมูกแบบแข็ง ( Hard Nose Cast )
เฝือกจมูกประเภทนี้มักทำจากวัสดุที่แข็งแรง เช่น พลาสติกแข็งหรือโลหะบาง มีลักษณะคงรูปและช่วยยึดโครงสร้างของจมูกให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง นิยมใช้ในการผ่าตัดศัลยกรรมจมูก เช่น การเสริมจมูกหรือการผ่าตัดโครงสร้างกระดูกจมูก เฝือกชนิดนี้ช่วยป้องกันไม่ให้กระดูกอ่อนและกระดูกที่เพิ่งได้รับการผ่าตัดเคลื่อนที่ และช่วยลดโอกาสเกิดความผิดรูปหลังการฟื้นตัว
- ข้อดี : แข็งแรง ทนทาน และช่วยพยุงจมูกให้เข้าที่ได้ดี
- ข้อเสีย : อาจรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เนื่องจากมีน้ำหนักมากกว่าเฝือกชนิดอื่น
2. เฝือกจมูกแบบยืดหยุ่น ( Soft Nose Cast )
เฝือกประเภทนี้ทำจากวัสดุที่มีความยืดหยุ่น เช่น ซิลิโคนหรือโฟม ใช้ในกรณีที่ไม่ต้องการแรงกดที่มากเกินไป เช่น หลังจากการผ่าตัดเล็ก ๆ หรือการบาดเจ็บที่ไม่รุนแรง เฝือกจมูกแบบยืดหยุ่นช่วยรองรับจมูกและป้องกันการเคลื่อนตัวของเนื้อเยื่อโดยที่ไม่กดทับมากเกินไป ทำให้รู้สึกสบายขึ้นเมื่อใส่
- ข้อดี : สวมใส่สบาย ลดอาการระคายเคือง เหมาะสำหรับการรักษาในระยะสั้น
- ข้อเสีย : ให้การรองรับได้น้อยกว่าเฝือกแบบแข็ง อาจไม่เหมาะกับกรณีที่ต้องการพยุงโครงสร้างจมูกอย่างแน่นหนา
3. เฝือกจมูกแบบพลาสติก ( Plastic Splint )
เฝือกจมูกประเภทนี้ทำจากพลาสติกที่มีน้ำหนักเบาและสามารถปรับให้เข้ากับรูปทรงจมูกของผู้ป่วยได้ดี มักใช้ในการฟื้นฟูหลังการผ่าตัด หรือช่วยพยุงโครงสร้างภายในของจมูก เช่น กรณีผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาการหายใจจากโพรงจมูกตีบแคบ
- ข้อดี : น้ำหนักเบา ปรับรูปทรงได้ง่าย และให้ความยืดหยุ่นมากกว่าชนิดแข็ง
- ข้อเสีย : อาจไม่แข็งแรงเท่ากับเฝือกแบบแข็งในกรณีที่ต้องการการพยุงโครงสร้างจมูกที่แน่นหนา
อย่างไรก็ตาม เฝือกจมูกเป็นองค์ประกอบสำคัญในการรักษาหลังการผ่าตัดหรืออาการบาดเจ็บที่เกี่ยวข้องกับจมูก การเลือกประเภทของเฝือกขึ้นอยู่กับลักษณะของการรักษาและคำแนะนำของแพทย์ โดยเฝือกแต่ละชนิดมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ซึ่งจะเหมาะกับคนไข้แต่ละคนนั่นเอง
การดูแลหลังการติดเฝือกจมูก
หลังจากที่แพทย์ติดเฝือกจมูกให้แล้ว ผู้ป่วยควรปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้…
- หลีกเลี่ยงการจับหรือขยับเฝือกจมูก
- นอนหงายและใช้หมอนรองศีรษะให้อยู่สูงเพื่อลดอาการบวม
- หลีกเลี่ยงการออกแรงบริเวณใบหน้า เช่น การเป่าลมหรือจามแรง ๆ
- ห้ามให้เฝือกเปียกน้ำ เว้นแต่แพทย์อนุญาตให้ทำความสะอาดได้
การดูแลตัวเองหลังการเอาเฝือกจมูกออก
เมื่อถึงเวลาที่แพทย์ถอดเฝือกจมูกออกแล้ว ผู้ป่วยควรดูแลจมูกอย่างระมัดระวังเพื่อลดความเสี่ยงของอาการบวมและการเปลี่ยนรูปของจมูก









( รีวิว เสริมจมูก จาก Solaris Clinic )
สรุปข้อควรรู้เกี่ยวกับ “การใส่เฝือกจมูกหลังเสริม”
เฝือกจมูกเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยให้จมูกฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์หลังการผ่าตัดศัลยกรรมหรืออาการบาดเจ็บ โดยช่วยรักษารูปทรงของจมูก ลดอาการบวม และป้องกันแรงกระแทกที่อาจทำให้ผลลัพธ์ของการรักษาเสียหายได้
ระยะเวลาการใส่เฝือกจมูกมักอยู่ที่ 5-10 วัน ขึ้นอยู่กับประเภทของการรักษา และในช่วงเวลานี้ผู้ป่วยควรดูแลตัวเองอย่างระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกระแทกจมูก รวมถึงปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
ซึ่งหากคนไข้ต้องการให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามตามที่คาดหวัง ความอดทนและการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี คือกุญแจสำคัญ เพราะจมูกจะใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะเข้าที่สมบูรณ์ ดังนั้น การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดและดูแลจมูกอย่างเหมาะสมจะช่วยให้ทุกคนได้จมูกที่สวยเข้ารูปและเป็นธรรมชาติอย่างที่ต้องการ
เสริมจมูกที่ไหนดี ต้องที่ Solaris Clinic
เพราะเราใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่ ลูกค้าจอง ไปจนถึงวันที่ทำ และ ยัง Follow up ทุกเคสอีก ตั้งแต่ 1-6 เดือนเพื่อให้ความสบายใจ และ ความปลอดภัย ทางคลินิกจะเตรียมความพร้อมให้พนักงานทุกคน สามารถรับคำปรึกษา และ รับปัญหาเบื้องต้นของคนไข้หลังทำ ส่งให้คุณหมอทราบ และแนวทางปฏิบัติ ดังนั้น เราจึงตอบได้เต็มเสียงว่า เราใส่ใจในทุกขั้นตอนหากถามเรื่องความสวย ความงามของงานศัลยกรรม ทางเราจะให้ทางคนไข้ ตัดสินและเลือกเราด้วยตนเอง
Solaris Clinic พร้อมบริการทั้ง 6 สาขา ได้แก่...
โดยปกติแล้ว แพทย์จะแนะนำให้ใส่เฝือกจมูกต่อเนื่องประมาณ 5-7 วัน ขึ้นอยู่กับลักษณะของการผ่าตัดและการฟื้นตัวของแต่ละบุคคล การถอดเฝือกก่อนกำหนดอาจทำให้โครงสร้างจมูกยังไม่เข้าที่ดีพอ เสี่ยงต่อการบิดเบี้ยว หรือได้รับแรงกระแทกที่อาจกระทบต่อผลลัพธ์ได้ ดังนั้น หากต้องการถอดเฝือกก่อนครบกำหนด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าจมูกพร้อมสำหรับการถอดเฝือกแล้ว
หลังการเสริมจมูก การดูแลตัวเองอย่างถูกต้องมีส่วนช่วยให้จมูกรัดแกนเร็วขึ้นและเข้ารูปสวยงาม โดยคนไข้สามารถดูแลตนเองตามขั้นตอนเบื้องต้น ดังนี้…
- ควรหลีกเลี่ยงการนอนตะแคง แต่ให้ใช้หมอนรองศีรษะให้อยู่ในระดับสูงในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีโซเดียมสูงหรืออาหารหมักดองเพื่อลดอาการบวม
- ประคบเย็นในช่วง 48 ชั่วโมงแรกและเปลี่ยนเป็นประคบอุ่นหลังจากนั้นเพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น
- งดสัมผัสหรือกดจมูกแรง ๆ และหลีกเลี่ยงการใส่แว่นที่มีน้ำหนักมากในช่วงแรก ที่สำคัญคือการพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น
โดยทั่วไปแล้ว แพทย์จะแนะนำให้ถอดเฝือกจมูกหลังครบ 5-7 วัน เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพจมูกของแต่ละบุคคล หากมีอาการบวมมากหรือจมูกยังไม่เข้าที่ดี แพทย์อาจพิจารณาให้ใส่เฝือกต่ออีก 1-2 วันเพื่อความปลอดภัย หลังจากถอดเฝือกแล้ว อาจยังมีอาการบวมอยู่บ้าง ซึ่งจะค่อย ๆ ลดลงภายใน 1-3 เดือน การดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์จะช่วยให้จมูกเข้ารูปเร็วและให้ผลลัพธ์ที่สวยงามขึ้น