“ซิลิโคนจมูกลอย” ปัญหาที่หลายคนกำลังเผชิญ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าปัญหานี้ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อความมั่นใจในภาพลักษณ์ของจมูกของผู้เผชิญปัญหาเท่านั้น แต่ยังอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้อีกด้วย ทั้งนี้ หลายคนอาจสงสัยว่า อาการนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? มีความอันตรายมากน้อยแค่ไหน? และหากพบว่าตัวเองประสบปัญหานี้ จำเป็นต้องเข้ารับการแก้ไขหรือไม่? เพื่อคลายความกังวล เรามาเจาะลึกถึงสาเหตุ ผลกระทบ และทางออกที่เหมาะสมในบทความนี้ไปพร้อม ๆ กัน
ซิลิโคนจมูกลอย คืออะไร เกิดจากอะไร อันตรายไหม ต้องแก้หรือไม่?
จากที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า ปัญหาหลังจากการเสริมจมูก เป็นเรื่องที่คนที่เสริมจมูกมีความกังวลอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นปัญหาซิลิโคนทะลุ มีเลือดออก มีอาการบวม ช้ำนานเกินไป บางคนเสริมจมูกผ่านไปหลายเดือนแล้วจมูกก็ยังไม่เข้าที่สักที ทั้งหมดนี้ก็ล้วนแต่เป็นปัญหาหลังจากการเสริมจมูกที่มีโอกาสพบได้ทุกคน และอีกหนึ่งปัญหาที่มักจะเจอได้บ่อยๆ ก็คือ ซิลิโคนลอย ซึ่งเมื่อเราเอามือไปจับที่ซิลิโคนแล้วขยับได้ ก็อาจจะกำลังเข้าข่ายปัญหาซิลิโคนจมูกลอยได้ ดังนั้น เพื่อให้ทุกคนสามารถตั้งมือรับปัญหานี้ได้ ในบทความนี้ Solaris Clinic จึงมีข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับปัญหานี้และแนวทางแก้ไขมาฝาก
ซิลิโคนลอย คืออะไร?
ปัญหาซิลิโคนลอย (Floating Silicone Implant) คือ ภาวะที่ซิลิโคนจมูกมีการขยับได้ง่าย ขยับซิลิโคนส่วนปลายจมูก แล้วมีการขยับบริเวณสันจมูกตามไปด้วยมากน้อยแล้วแต่เคส ซึ่งในบางเคสอาจเห็นซิลิโคนเป็นสันลอยขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด จนอาจส่งผลต่อรูปทรงจมูกจนขาดความมั่นใจ ซึ่งปัญหาซิลิโคนจมูกลอยมีตั้งแต่ภาวะเริ่มต้นไปจนถึงภาวะรุนแรง โดยเริ่มต้นเมื่อมีการขยับซิลิโคน บริเวณสันจมูกก็อาจจะขยับตามไปด้วย หรือในบางคนก็อาจจะเห็นซิลิโคนลอยขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลต่อความมั่นใจ และเกิดความกังวลได้ว่าซิลิโคนจะทะลุ เนื่องจากซิลิโคนจมูกจะไม่สามารถทำปฏิกิริยากับเนื้อเยื่อจมูกได้เหมือนกับเนื้อเยื่อเทียมหรือกระดูกอ่อนซี่โครงได้นั่นเอง
ซิลิโคนลอย เกิดจากอะไรได้บ้าง?
สำหรับสาเหตุของการเกิดปัญหาซิลิโคนลอยนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยด้วยกัน เช่น…
เนื่องจากในการผ่าตัดเสริมจมูกด้วยซิลิโคนนั้น แพทย์จะทำการเปิดช่องว่างสำหรับวางซิลิโคน แต่ถ้าหากเปิดช่องว่างเพื่อวางซิลิโคนผิดตำแหน่งไปอยู่ในชั้นตื้นแทนที่จะวางใต้ชั้นเยื่อหุ้มกระดูก ก็อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ซิลิโคนจมูกลอยได้
ส่วนใหญ่มักเกิดจากฮัมพ์จมูกสูงตรงกลาง แต่บริเวณหัวคิ้วหักลงลึก( High Hump and Deep Radix) ทำให้เวลาเสริมซิลิโคนที่สันจมูก หากเหลาหลบฮัมพ์ตรงกลางไม่ดี ไม่เหมาะสม จะทำให้ซิลิโคนถูกดันตรงกลาง ทำให้ซิลิโคนส่วนหัวตาลอยขยับไปมาได้
หากเนื้อเยื่ออ่อนสันจมูกของคนไข้หลวมเกินไป จะทำให้ซิลิโคนขยับได้ โดยเฉพาะซิลิโคนที่มีความบาง ถึงแม้ว่าจะเสริมในชั้นใต้เยื่อหุ้มกระดูกก็ตาม ก็อาจจะทำให้ซิลิโคนจมูกลอยได้เช่นกัน
เกิดจากการติดเชื้อในเนื้อเยื่อจมูก จนเกิดเป็นหนองภายในจมูกรอบ ๆ ซิลิโคน ทำให้ซิลิโคนลอยได้ มักมีอาการบวม แดง ร้อน และปวดจมูกร่วมด้วย
เพราะการตะไบฮัมพ์รุนแรงเกินไป ก็จะทำให้เยื่อหุ้มกระดูกเสียหายเป็นบริเวณกว้าง เมื่อเยื่อหุ้มกระดูกเสียหายก็จะทำให้ไม่มีตัวช่วยยึดซิลิโคนให้แน่น และมักจะพบได้บ่อยในผู้ที่ต้องแก้จมูกบ่อย ๆ และทำให้เกิดปัญหาซิลิโคนลอยได้ในที่สุด
อย่างไรก็ดี ทั้ง 5 สาเหตุนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีอีกหลากหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อปัญหานี้ ซึ่งหากคนไข้ท่านใดกำลังสงสัยว่าซิลิโคนจมูกลอย แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเร็ว เพื่อประเมินปัญหาและหาวิธีแก้ไขอย่างเหมาะสม เช่น การปรับตำแหน่งซิลิโคนหรือเปลี่ยนชนิดซิลิโคนที่เหมาะสมกับโครงสร้างจมูกของตนเอง
ซิลิโคนลอย ดูยังไง?
สำหรับการตรวจสอบว่าซิลิโคนจมูกของเราลอยหรือไม่ สามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน ดังนี้…
- สังเกตรูปทรงจมูก เช่น สันจมูกไม่เรียบเนียน มีรอยนูนหรือเบี้ยว หรือเห็นขอบซิลิโคนชัดเจน โดยเฉพาะบริเวณหัวตา อาจเป็นสัญญาณของซิลิโคนลอยนั่นเอง
- ลองแตะและขยับซิลิโคน เริ่มโดยใช้นิ้วชี้แตะที่บริเวณสันจมูกกลางหรือใกล้ปลายจมูก จากนั้นกดเบา ๆ และลองขยับนิ้วไปทางซ้ายและขวา หากซิลิโคนเคลื่อนที่ตามการขยับของนิ้ว แสดงว่าซิลิโคนอาจลอยหรือไม่ยึดแน่นกับเนื้อเยื่อจมูกของเรานั่นเอง
- รู้สึกได้ว่าซิลิโคนขยับเมื่อลองแตะ หากรู้สึกว่าซิลิโคนสามารถขยับหรือโยกได้เมื่อสัมผัส หรือมีอาการเสียวบริเวณสันจมูกเมื่อกดเบา ๆ อาจบ่งบอกถึงปัญหาซิลิโคนลอย
ซึ่งหากคนไข้ลองสังเกตจาก 3 ข้อเบื้องต้นแล้ว และพบว่ามีแนวโน้มที่กำลังจะพบปัญหาซิลิโคนลอย ก็ควรรีบเข้าพบแพทย์โดยเร็วเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดปัญหาและดำเนินการแก้ไขเพื่อให้ตรงจุดต่อไป
อันตรายของซิลิโคนเสริมจมูกลอย ที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง
หลาย ๆ คนอาจยังไม่รู้ว่าซิลิโคนลอยนั้นส่งผลอันตรายมากกว่าที่คิด เช่น…
- เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เพราะซิลิโคนที่ไม่เกาะแน่นอาจเกิดช่องว่างระหว่างซิลิโคนกับเนื้อเยื่อ ทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรีย และเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
- อาจเกิดการอักเสบและระคายเคือง หากซิลิโคนขยับตัว อาจทำให้เนื้อเยื่อรอบๆ เกิดการอักเสบและระคายเคือง ซึ่งอาจต้องรักษาเพิ่มเติม
- ซิลิโคนทะลุ เมื่อซิลิโคนลอยหรือขยับตัวมากขึ้น อาจดันเนื้อเยื่อจนเกิดการทะลุออกมาจากผิวหนังได้
ทั้งนี้ สำหรับในเคสที่มีภาวะซิลิโคนลอย ขยับได้ง่ายเพียงอย่างเดียว โดยที่ไม่มีภาวะสันจมูกตึงบาง ปลายจมูกบางใส ซิลิโคนเอียงผิดแนวจมูกอย่างมาก หากไม่มีภาวะดังกล่าวร่วมด้วย อาจไม่จำเป็นต้องแก้ไขได้ ยกเว้นในเคสที่ซิลิโคนลอยค่อนข้างมาก ส่งผลต่อรูปทรงจมูก ควรได้รับการแก้ไข เพื่อเสริมความมั่นใจ และป้องกันการเกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาภายหลังได้
ผลกระทบจากปัญหาซิลิโคนลอยต่อผลลัพธ์ของการทำจมูก
หลักจากที่ทราบถึงลักษณะของปัญหามาพอประมาณแล้ว ทุกคนจะสามารถเห็นได้แล้วว่าปัญหาซิลิโคนลอยเป็นปัญหาที่ไม่ควรปล่อยไว้ เพราะนอกจากจะอันตรายแล้วยังส่งผลต่อผลลัพธ์หลังการทำจมูกหลายประการ
เช่นว่า เมื่อซิลิโคนจมูกลอย อาจส่งผลกระทบต่อรูปร่างและความสวยงามของจมูกอย่างเห็นได้ชัด รูปทรงจมูกที่เคยได้สัดส่วนอาจเปลี่ยนไปจนเกิดความผิดปกติ เช่น มีลักษณะนูนหรือเบี้ยว ทำให้จมูกดูไม่สมส่วนและเสียความสวยงามตามที่ตั้งใจไว้ ความไม่เป็นธรรมชาตินี้ยิ่งเห็นได้ชัดเมื่อซิลิโคนไม่ได้แนบสนิทกับเนื้อเยื่อ โดยเฉพาะเวลามองหรือสัมผัส ซึ่งอาจสร้างความไม่มั่นใจให้กับผู้ที่ทำจมูกมา
นอกจากนี้ หากปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไข อาจจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดใหม่เพื่อปรับตำแหน่งหรือเปลี่ยนซิลิโคน วิธีการดังกล่าวไม่เพียงเพิ่มความยุ่งยากในกระบวนการรักษา แต่ยังอาจก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่ผู้ทำจมูกต้องรับผิดชอบอีกด้วย
ซิลิโคนลอย แก้ยังไง เลือกวิธีไหนจึงจะปลอดภัยที่สุด?
สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาซิลิโคนลอยนั้นสามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน เช่น…
เนื่องจากปัญหาซิลิโคนลอยนั้นมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการวางตำแหน่งซิลิโคนผิดที่ หากทำการเสริมจมูกแบบปิดก็ให้ทำการผ่าตัด เพื่อเอาซิลิโคนเก่าออกก่อน จากนั้นถึงใส่ซิลิโคนใหม่เข้าไปที่บริเวณใต้เยื่อหุ้มจมูก เพื่อป้องกันซิลิโคนเคลื่อนและเป็นการปรับวางตำแหน่งให้ซิลิโคนแน่นขึ้นและรับกับจมูกมากขึ้น
การมีฮัมพ์มากจนทำให้ซิลิโคนลอย การแก้ไขอาจจะต้องทำการศัลยกรรมฮัมพ์ เช่น ตอกฐานจมูก ตะไบ หรือดามหลังคาแกนจมูก เพื่อให้เสริมซิลิโคนได้ง่ายขึ้น
หากเป็นการเสริมจมูกเนื้อน้อย อาจจะต้องใช้เนื้อเยื่อ หรือกระดูกอ่อนแทนการใช้ซิลิโคน
โดยหากเป็นกรณีที่ได้รับรับการแก้ไขด้วยเทคนิคซิลิโคนมาแล้วหลายครั้ง ควรเปลี่ยนเทคนิคการผ่าตัดเป็นการแก้ไขปรับโครงสร้างจมูกโดยตรงด้วยการเสริมจมูกแบบโอเพ่น เพื่อลดปัญหาจากการเสริมซิลิโคนได้
ท้ายที่สุด หากใครที่กำลังเจอกับปัญหาซิลิโคนลอยอยู่จะต้องรีบแก้ แต่ถ้าหากซิลิโคนไม่ได้ทิ่มออกมาบริเวณปลายจมูกก็อาจจะยังสามารถรับมือได้ในระยะหนึ่ง แต่ก็ไม่ควรปล่อยทิ้งนานเกินไปจนทำให้จมูกของเราเสียรูป ดังนั้น การแก้ปัญหาซิลิโคนลอยจะต้องดูก่อนว่าจมูกของคนไข้มีปัญหาอะไร เพราะในบางคนมีปัญหาเรื่องรูปทรง บางคนมีปัญหาเรื่องความบางของปลายจมูก เพื่อที่จะได้แก้ปัญหาได้ตรงจุดมากที่สุด
ทำไมต้องเสริมจมูก ที่ Solaris Clinic
เพราะเราใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่ ลูกค้าจอง ไปจนถึงวันที่ทำ และ ยัง Follow up ทุกเคสอีก ตั้งแต่ 1-6 เดือนเพื่อให้ความสบายใจ และ ความปลอดภัย ทางคลินิกจะเตรียมความพร้อมให้พนักงานทุกคน สามารถรับคำปรึกษา และ รับปัญหาเบื้องต้นของคนไข้หลังทำ ส่งให้คุณหมอทราบ และแนวทางปฏิบัติ ดังนั้น เราจึงตอบได้เต็มเสียงว่า เราใส่ใจในทุกขั้นตอนหากถามเรื่องความสวย ความงามของงานศัลยกรรม ทางเราจะให้ทางคนไข้ ตัดสินและเลือกเราด้วยตนเอง
Solaris Clinic พร้อมบริการทั้ง 6 สาขา ได้แก่…
อุดรธานี ขอนแก่น โคราช กรุงเทพ(บางนา) ชลบุรี(อมตะ) อุบลราชธานี(ใหม่)
