หลังเสริมจมูกกินอะไรได้บ้าง เปิดลิสต์ 7 เมนูที่คนเสริมจมูกต้องกิน

หลายคนมักจะมีความเข้าใจผิดว่าการกินไข่จะทำให้แผลอักเสบ แต่จริง ๆ แล้ว โปรตีนจากไข่เป็นสารอาหารที่ช่วยในเรื่องของการสมานแผล โดยเสริมสร้างให้ร่างกายสามารถสร้างเนื้อเยื่อได้ดีขึ้น พร้อมยังช่วยในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ทำให้แผลหลังผ่าตัดสมานดีขึ้นและแห้งไวกว่าปกติ แต่ปริมาณที่ควรรับประทานนั้น ควรรับประทานเพียงวันละ 1 ฟองเท่านั้น เพราะหากทานมากไปก็จะเกินกว่าที่ร่างกายต้องการได้นั่นเอง

นอกจากโปรตีนจากไข่จะช่วยในเรื่องของการฟื้นฟูแผลแล้ว การเลือกทานเนื้อปลาก็สามารถช่วยให้ให้แผลของคนไข้หายเร็วขึ้นได้ โดยไม่ว่าจะเป็นปลาต้มหรือย่าง ก็สามารถเลือกรับประทานได้ แต่ทั้งนี้ คนไข้ควรเลือกรับประทานเนื้อปลาที่สุกและมีการปรุงรสชาติที่กำลังพอดี ไม่ควรดิบหรือปรุงรสชาติที่จัดจนเกินไป เพราะไม่เช่นนั้นอาจทำให้เกิดการอักเสบได้นั่นเอง

เพราะอาหารที่มีรสอ่อนหรือรสชาติที่ไม่จัดจ้านจนเกินไป จะทำให้แผลไม่เกิดการกระตุ้นจากส่วนผสมต่าง ๆ การกินอาหารอ่อน ๆ จึงจะช่วยทำให้แผลหลังเสริมจมูกสมานได้อย่างคงที่ และทำให้อาการบวมช้ำหายไวได้ดียิ่งขึ้น

เพราะในเมนูอาหารที่ประกอบด้วยผักใบเขียวชนิดต่าง ๆ นั้นมีแร่ธาตุสำคัญ นั่นก็คือ ธาตุเหล็กและสังกะสี ที่ช่วยกระตุ้นการสมานแผลได้ดี ช่วยสังเคราะห์โปรตีนและคอลลาเจน แถมยังช่วยผลิตเซลล์ผิวใหม่และช่วยสมานบาดแผลได้อีกด้วย หากอยากฟื้นตัวได้เร็วขึ้นควรกินธาตุเหล่านี้อย่างน้อยวันละ 15 มิลลิกรัม เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในการนำสารอาหารไปช่วยสมานแผลนั่นเอง

เพราะธัญพืชชนิดต่าง ๆ โดยเฉพาะจำพวกถั่วเปลือกแข็ง เช่น  อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วลิสง ฯลฯ มี ไขมันดี ที่นอกจากจะให้พลังงานสูงแล้วยังช่วยสลายโปรตีนจากกล้ามเนื้อมาใช้เป็นพลังงานในการสร้างและซ่อมแซมเยื้อหุ้มเซลล์ได้อีก แถมยังมีส่วนช่วยให้แผลสมานได้เร็วขึ้น

เนื่องจากในผลไม้ชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ส้ม ฝรั่ง มะละกอ กีวี บรอกโคลี นั้น อุดมไปด้วยวิตามินซีที่นอกจากจะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระแล้ว ยังเป็นสารที่ช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง ช่วยเรื่องความแข็งแรงของผนังหลอดเลือด ทำให้บาดแผลสมานตัวได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ ยังช่วยลดอาการบวมช้ำ อักเสบ ที่เกิดขึ้นได้อีกด้วย

แม้จะไม่ได้เป็นเมนูอาหารที่มีสารอาหารจำเป็นเหมือนกับทั้ง 6 เมนูที่กล่าวมาข้างต้น แต่น้ำเป็นองค์ประกอบหลักของร่างกายที่สำคัญ น้ำเป็นกลไกสำคัญต่อการสมานแผล เมื่อร่างกายมีความชุ่มชื้นเซลล์ผิวหนังก็จะสามารถเคลื่อนที่จากขอบแผลมาปิดคลุมบาดแผลได้ดี ดังนั้นควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้วให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพราะน้ำเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้นนั่นเอง