“ทำตาสองชั้น” ไม่ใช่แค่การเสริมความงามเพื่อให้ดวงตาดูกลมโตขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นเทคนิคที่ช่วยปรับโครงสร้างใบหน้าให้ดูละมุน สดใส และมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีเทคนิคหลากหลายที่สามารถตอบโจทย์รูปตาและปัญหาของแต่ละคนได้อย่างเฉพาะเจาะจง โดยเฉพาะในปี 2025 ที่เทรนด์ความงามเน้นความเป็นธรรมชาติมากขึ้น ชั้นตาที่พอดี ไม่หลอกตา และไม่ต้องแต่งหน้าจัดก็ยังดูดี กลายเป็นที่นิยมอย่างมาก
บทความนี้ Solaris Clinic จะพาผู้อ่านทุกคนไปทำความรู้จักกับเทคนิคทำตาสองชั้นยอดฮิตในปี 2025 พร้อมคำแนะนำว่า แต่ละเทคนิคเหมาะกับรูปตาแบบไหน เพื่อให้คุณตัดสินใจเลือกวิธีที่ใช่และปลอดภัยที่สุดสำหรับตนเองไปพร้อม ๆ กัน
ทำตาสองชั้น แบบไหนเหมาะกับคุณ
สำหรับใครกำลังมองหาวิธีเพิ่มเสน่ห์ให้ดวงตาดูมีมิติมากขึ้น การ ทำตาสองชั้น ถือเป็นหนึ่งในหัตถการยอดฮิตที่ยังคงมาแรงต่อเนื่องในปี 2025 ไม่ว่าจะเพื่อแก้ปัญหาหนังตาตก ชั้นตาไม่ชัด หรืออยากปรับลุคให้ดูสดใสขึ้น แต่รู้หรือไม่ว่า “ตาสองชั้น” ก็มีหลายเทคนิค แล้วแบบไหนที่เหมาะกับแต่ละคน Solaris Clinic มีคำตอบมาฝาก
ทำไมปี 2025 คนถึงนิยมทำตาสองชั้นมากขึ้น?
ในปี 2025 กระแสความงามที่เน้น “ลุคธรรมชาติแบบมีเสน่ห์” กลายเป็นเทรนด์หลักที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการปรับลุคให้ดูสดใสขึ้น โดยไม่ต้องแต่งหน้าเยอะหรือพึ่งเทคนิคเมกอัพมากจนเกินไป ซึ่งการทำตาสองชั้นตอบโจทย์เทรนด์นี้ได้อย่างพอดี จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมคนถึงหันมาให้ความสนใจศัลยกรรมตาเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ ยังรวมไปถึงเหตุผลอื่น ๆ ด้วย เช่น…
เพราะในยุคนี้คือยุคที่มีคำว่า “less is more” คือคำจำกัดความของความสวย การมีชั้นตาที่ดูนุ่มนวล สมูธ และเข้ากับโครงหน้าจึงเป็นที่ต้องการอย่างมาก การทำตาสองชั้นแบบไม่หลอกตา ไม่เป็นเส้นสูงเกินจริง จึงกลายเป็นทางเลือกหลักของคนที่อยากสวยอย่างมั่นใจแบบไม่โป๊ะ
ปี 2025 เป็นปีที่เทคโนโลยีทางการแพทย์ถูกพัฒนาไปอีกขั้น ด้วยเทคนิคทำตาสองชั้นแบบใหม่ ๆ ที่ออกแบบให้เจ็บน้อย บวมน้อย และฟื้นตัวไวกว่าเดิมหลายเท่า เช่น การใช้เลเซอร์ร่วมกับการกรีด หรือการเย็บชั้นตาแบบไร้แผลแบบเจาะจงเฉพาะจุด ทำให้ผู้เข้ารับบริการสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็ว ไม่ต้องพักฟื้นนานเหมือนในอดีต
เทคนิคทำตาสองชั้นยอดฮิตปี 2025
เป็นเทคนิคพื้นฐานที่ยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่อง เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีชั้นตาเลย มีหนังตาหนา หรือไขมันเปลือกตาเยอะ การกรีดแบบธรรมชาติจะช่วยสร้างชั้นตาที่ชัดเจนและถาวร โดยแพทย์จะกรีดเปิดแผลบาง ๆ ตามแนวชั้นตาที่ออกแบบไว้ จากนั้นเอาไขมันและหนังตาส่วนเกินออก ก่อนจะเย็บปิดให้เนียนไปกับผิว
- ข้อดี : ชั้นตาชัดเจน ไม่คลายตัวในระยะยาว ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
- ข้อจำกัด : ต้องพักฟื้น 5–7 วัน มีรอยบวม/ช้ำในช่วงแรก
เป็นเทคนิคยอดนิยมในกลุ่มคนที่ต้องการลุคธรรมชาติแบบเกาหลี เหมาะกับผู้ที่มีหนังตาบาง ไม่มีไขมันเปลือกตาเยอะ โดยแพทย์จะใช้ไหมเย็บชั้นตาโดยไม่เปิดแผล ทำให้ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้นนาน
- ข้อดี : เจ็บน้อย ฟื้นตัวไว เหมาะกับคนไม่อยากหยุดงาน
- ข้อจำกัด : อาจคลายตัวได้ภายใน 1–3 ปี หากมีหนังตาหนักขึ้น หรือไม่ได้ดูแลอย่างเหมาะสม
เป็นเทคนิคที่ผสมระหว่างการเย็บกับการกรีด เหมาะกับผู้ที่ต้องการชั้นตาชัดขึ้นแต่ไม่อยากผ่าตัดใหญ่ โดยแพทย์จะกรีดสั้นเฉพาะบางจุดเพื่อเอาไขมันหรือหนังตาบางส่วนออก จากนั้นเย็บให้เกิดชั้นตาตามที่ออกแบบไว้
- ข้อดี : บวมน้อย พักฟื้นน้อย ได้ลุคธรรมชาติ ดูหวานละมุน
- ข้อจำกัด : ไม่เหมาะกับผู้ที่มีไขมันเปลือกตาหนา หรือหนังตาตกมาก
เป็นเทคนิคเสริมที่ช่วยปรับรูปตาให้ดูยาว เรียว และอ่อนหวานมากยิ่งขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีตาสั้น ตาชิด หรือตาเล็ก โดยแพทย์จะประเมินและออกแบบร่วมกับการทำชั้นตา เพื่อให้รูปตาโดยรวมสมดุลและเข้ากับใบหน้า
- ข้อดี : ทำให้ดวงตาดูโตขึ้นอย่างชัดเจน ละมุน และหวานแบบเกาหลี
- ข้อจำกัด : เป็นเทคนิคที่ต้องทำกับแพทย์ผู้มีประสบการณ์เฉพาะทางด้านการปรับรูปตา เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่อเยื่อบุตาและแผลเป็น
เทคนิคไหนเหมาะกับรูปตาแบบคุณ?
จากที่ได้ไปข้างต้นว่าเทคนิคศัลยกรรมชั้นตานั้นมีหลากหลายเทคนิคด้วยกัน ซึ่งแต่ละเทคนิคก็สามารถตอบโจทย์แก่ผู้มีปัญหาชั้นตาที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้…
เทคนิคที่เหมาะที่สุดคือ การกรีดตาสองชั้นแบบธรรมชาติ (Natural Line Incision) เพราะเป็นเทคนิคที่สามารถนำไขมันและหนังตาส่วนเกินออกไปได้ พร้อมสร้างชั้นตาใหม่ที่คมชัดและถาวร เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนลุคให้ดวงตาดูโตขึ้น ชัดขึ้น และมีความละมุนแบบเป็นธรรมชาติในระยะยาว
เทคนิคที่แนะนำคือ การเย็บตาสองชั้นแบบไม่กรีด (Non-incision) โดยจะเป็นเทคนิคที่ใช้ไหมเย็บชั้นตาโดยไม่ต้องเปิดแผล จึงทำให้เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการพักฟื้นนาน อย่างไรก็ตาม เทคนิคนี้อาจไม่เหมาะกับคนที่มีหนังตาหนักหรือไขมันเปลือกตาเยอะ เพราะชั้นตาอาจคลายตัวได้เมื่อเวลาผ่านไป
เทคนิคที่เหมาะคือ Mini Cut หรือ การกรีดสั้น ซึ่งจะเหมาะกับผู้ที่อยากให้ชั้นตาชัดเจนขึ้น โดยไม่ต้องทำการผ่าตัดใหญ่มาก เป็นการกรีดแผลเล็ก ๆ เฉพาะจุดที่จำเป็น ร่วมกับการเอาไขมันบางส่วนออก เทคนิคนี้ช่วยให้ได้ลุคตาที่ละมุน ชั้นตาดูพอดี ไม่หลอกตา และไม่ต้องพักฟื้นนาน
เทคนิคที่ตอบโจทย์คือ การทำตาสองชั้นร่วมกับการเปิดหัวตา–หางตา (Picanthoplasty-Canthal lengthening) โดยเทคนิคนี้จะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการปรับโครงสร้างรูปตาให้ยาวขึ้น เรียวยิ่งขึ้น และดวงตาดูหวานแบบมีมิติมากขึ้น เทคนิคนี้เหมาะมากกับผู้ที่อยากได้ลุคสายเกาหลีหรือละมุนเป็นธรรมชาติ แต่ต้องเลือกทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่สวยกลมกลืนกับใบหน้า
สรุป “เสริมตาสองชั้นแบบไหนเหมาะกับเรา?”
เสริมตาสองชั้น ที่ Solaris Clinic
การเสริมคางที่โซลาริสคลินิกมีจุดเด่นที่โดดเด่นในการปรับโครงหน้าให้ดูสมดุลและเสริมความมั่นใจให้กับลูกค้า โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูงจะทำการประเมินรูปหน้าของแต่ละบุคคลอย่างละเอียดเพื่อออกแบบทรงคางที่เข้ากับโครงหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังใช้เทคนิคที่ทันสมัยและปลอดภัย เพื่อให้ผลลัพธ์ดูเรียบเนียน ไม่เห็นรอยแผล ทำให้คางมีรูปทรงที่สวยงามและเข้ากับใบหน้าโดยรวมได้อย่างลงตัว การบริการที่ใส่ใจในรายละเอียดและการออกแบบเฉพาะบุคคล ทำให้การเสริมคางที่โซลาริสคลินิกตอบโจทย์ทั้งด้านความสวยงามและความมั่นใจในตนเอง
ศัลยกรรมตาสองชั้นที่โซลาริสคลินิกเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับให้ดวงตาดูมีมิติและโดดเด่นมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีเปลือกตาหนา ตาตี่ หรือมีชั้นตาที่ไม่ชัดเจน ซึ่งอาจทำให้ดวงตาดูเล็กหรืออิดโรย ศัลยกรรมนี้ยังเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหนังเปลือกตาหย่อนคล้อยหรือมีไขมันสะสม ทำให้ชั้นตาดูไม่เรียบร้อยหรือไม่สม่ำเสมอ การศัลยกรรมตาสองชั้นที่โซลาริสคลินิกช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ ทำให้ดวงตาดูกลมโตและมีความสดใส อีกทั้งยังช่วยเสริมความมั่นใจและทำให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนเยาว์และสดชื่นขึ้น
( รีวิว ตาสองชั้น จาก Solaris Clinic )
