การทำตา 2 ชั้น เป็นการผ่าตัดที่ช่วยให้ดวงตาดูสดใส คมชัด และดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างชัดเจน แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญสูง เพราะ “ชั้นตา” เป็นงานละเอียดที่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อ หนังตา และโครงสร้างโดยรอบ
คลินิกที่ดีต้องวิเคราะห์สภาพตาอย่างละเอียด เลือกเทคนิคที่ตรงปัญหา และออกแบบชั้นตาให้เข้ากับใบหน้าจริง คล้ายแนวคิด Solaris ที่ให้ความสำคัญกับความละมุนและความเป็นธรรมชาติ
6 เกณฑ์สำคัญก่อนเลือกคลินิกทำตา 2 ชั้น
ด้านล่างนี้คือหัวใจหลักที่จะช่วยให้คุณเลือกคลินิกทำตาได้อย่างมั่นใจ
1) แพทย์ต้องเชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตาโดยเฉพาะ
การทำตาไม่ใช่แค่กรีดหนังตา แต่ต้องประเมินระดับกล้ามเนื้อ ปริมาณไขมัน ความหย่อนของผิว และรูปทรงดวงตา แพทย์ที่มีประสบการณ์สูงจะสามารถออกแบบชั้นตาที่เหมาะกับคุณที่สุด
สิ่งที่ควรดู
- แพทย์ต้องเคยทำเคสตา 2 ชั้นจำนวนมาก
- อธิบายปัญหาอย่างละเอียด เช่น ไขมันเยอะ หนังตาตก ชั้นหลบใน
- เลือกเทคนิคตามปัญหาของคุณ ไม่ใช้วิธีเดียวกับทุกคน
คลินิกที่เน้นงานธรรมชาติ เช่น Solaris จะวิเคราะห์สภาพตาก่อนทำทุกรายอย่างละเอียด
2) คลินิกต้องมีเทคนิคหลายรูปแบบ ไม่ใช่ใช้เทคนิคเดียวกับทุกเคส
โครงสร้างตาของแต่ละคนแตกต่าง เทคนิคที่ดีต้องตอบโจทย์ปัญหาเฉพาะของแต่ละราย ตั้งแต่หนังตาหนา หนังตาตก ไปจนถึงตาไม่เท่ากัน
สิ่งที่ควรดู
- เทคนิคกรีดสั้นสำหรับผู้ที่หนังตาน้อย
- เทคนิคกรีดยาว + เอาไขมันออกสำหรับคนไขมันเยอะ
- เทคนิคปรับกล้ามเนื้อสำหรับคนตาง่วง (อ่านเพิ่มเติม : รู้ได้อย่างไรว่าเป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง)
- อธิบายข้อดี–ข้อจำกัดของแต่ละเทคนิค
คลินิกระดับมืออาชีพ เช่น Solaris จะปรับวิธีทำให้เหมาะกับเป้าหมายของคนไข้ ไม่ใช้สูตรสำเร็จ
3) รีวิวเคสจริงต้องเห็นอย่างชัดเจนหลายมุม
รีวิวที่ดีต้องสะท้อนผลลัพธ์จริง ไม่ปรับแต่งจนผิดธรรมชาติ และต้องมีหลายเคสที่รูปหน้าใกล้เคียงกับคุณ
สิ่งที่ควรดู
- รีวิวต้องมีมุมหน้าตรง ด้านข้าง และตอนมองลง
- มีเคส follow up 1–3 เดือนให้ดู
- รีวิวต้องไม่ฟิลเตอร์หนักจนไม่เห็นความจริง
คลินิกคุณภาพ เช่น Solaris มักได้รีวิวที่เน้น “ตาละมุน–เปิดมิติ–ไม่โป๊ะ”
4) ห้องผ่าตัดและเครื่องมือปลอดเชื้อได้มาตรฐานสูง
การทำตาเป็นการผ่าตัดเล็ก แต่ต้องใช้อุปกรณ์ที่แม่นยำและห้องผ่าตัดปลอดเชื้อเพื่อป้องกันโอกาสติดเชื้อและบวมผิดปกติ
สิ่งที่ควรดู
- ห้องผ่าตัดมีระบบปลอดเชื้อ
- เครื่องมือผ่านการฆ่าเชื้อครบ
- มีทีมผู้ช่วยที่ผ่านการอบรมศัลยกรรมเฉพาะทาง
- คลินิกต้องควบคุมความสะอาดอย่างเคร่งครัด
แนวคิดแบบ Solaris จะเน้นความปลอดภัยตั้งแต่ขั้นตอนแรกเสมอ
5) ต้องมีการออกแบบชั้นตาตามโครงหน้าจริง
ชั้นตาที่สวยไม่ใช่แค่พับให้เห็น แต่ต้องสัมพันธ์กับคิ้ว จมูก และระยะห่างดวงตา การออกแบบเป็นหัวใจของความเป็นธรรมชาติ
สิ่งที่ควรดู
- ความสูงชั้นตาต้องสัมพันธ์กับสันจมูก
- ระยะคิ้ว–ตาต้องสมดุล
- พับชั้นตาต้องไม่หนาเกินไป
- ต้องมีการเทสชั้นตาก่อนทำจริง
คลินิกที่มีความละเอียด เช่น Solaris จะมีขั้นตอนเทสชั้นตาก่อนผ่าตัดทุกเคส
6) ระบบดูแลหลังทำต้องละเอียดและต่อเนื่อง
การทำตา 2 ชั้นต้องมีการดูแลหลังผ่าตัดที่ถูกต้อง เพื่อให้ชั้นตาเข้าที่และลดอาการบวมมากที่สุด
สิ่งที่ควรดู
- มีการนัด follow up หลายรอบ
- มีทีมให้คำแนะนำการล้างแผล
- ติดต่อคลินิกได้ง่ายหากมีอาการผิดปกติ
- มีแผนติดตามผลอย่างน้อย 1–3 เดือน
ระบบของ Solaris จะดูแลตั้งแต่วันแรกจนชั้นตาเข้าที่อย่างละมุนสวยสมบูรณ์
สรุป ทำตา 2 ชั้นที่ไหนดี?
ให้พิจารณา 3 จุดสำคัญ ดังนี้
- แพทย์ต้องเชี่ยวชาญด้านตาโดยตรง
- คลินิกต้องมีเทคนิคหลากหลายและออกแบบเฉพาะบุคคล
- ระบบความปลอดภัยและการดูแลหลังทำต้องได้มาตรฐานสูง
แนะนำคลินิกทำตา 2 ชั้น “Solaris Clinic”
หากคุณชอบงานตาธรรมชาติ ละมุน ดูตื่นสดใส และไม่โป๊ะ คลินิกที่มีแนวคิดแบบ Solaris คือคำตอบที่เหมาะสำหรับการทำตา 2 ชั้นที่สุด
เพราะ Solaris Clinic ออกแบบทุกเคสให้เข้ากับโครงหน้าเฉพาะบุคคล ดูละมุนแต่โดดเด่นในแบบของคุณภายใต้การดูแลของ คุณหมอต้อง – นายแพทย์วิษณุ อภัยแสน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำตา 2 ชั้นที่มากด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี พร้อมเทคนิคออกแบบเคสต่อเคส
แนะนำ “โปรโมชั่นตาสองชั้น ชั้นตาสวย เส้นคมชัด เริ่มต้นเพียง 9,900 บาท”
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับทำตา 2 ชั้นที่ไหนดี
Q: ทำตา 2 ชั้นแบบไหนดูเป็นธรรมชาติที่สุด?
เทคนิคกรีดสั้นหรือกรีดยาวร่วมกับเอาไขมันออก ขึ้นกับปัญหาหนังตาและชั้นตาเดิมของแต่ละคน
Q: หลังทำต้องพักฟื้นกี่วัน?
บวมประมาณ 3–7 วัน และจะเข้าที่ภายใน 1–3 เดือน
Q: ทำไมชั้นตาไม่เท่ากัน?
เกิดจากความต่างของไขมัน ผิวหนัง หรือกล้ามเนื้อตา แพทย์ต้องประเมินหลายส่วนเพื่อแก้ไข








