วิธีเช็คจมูกเอียง มีขั้นตอนยังไง ?
คนเสริมจมูกต้องรู้เพื่อสังเกตสัญญาณผิดปกติของซิลิโคนจมูก
จมูกเอียงคืออะไร ทำไมต้องเช็ค?

3 วิธีเช็คจมูกเอียงด้วยตัวเอง
ทริคง่าย ๆ ใช้สังเกตได้ทุกวัน
- ยืนหน้าตรง มองตรงไปข้างหน้าในกระจก แล้วสังเกตว่าจมูกเอียงไปด้านใดด้านหนึ่งหรือไม่
- ถ่ายภาพใบหน้าตรงในมุมเดียวกันหลายครั้ง แล้วนำมาเปรียบเทียบความสมมาตรของจมูก
- ใช้แอปพลิเคชันแต่งรูปที่มีฟังก์ชันเส้นสมมาตรช่วยเช็คว่าแนวจมูกอยู่ตรงกลางหรือไม่
- ใช้ดินสอ ไม้บรรทัด หรือเชือกเส้นตรงแนบจากกึ่งกลางหน้าผากลงมายังกึ่งกลางคาง สังเกตว่าจมูกอยู่กึ่งกลางหรือเอียงไปด้านใด
- ทดลองวาดเส้นกึ่งกลางในภาพถ่ายของใบหน้า แล้วสังเกตว่าปลายจมูกอยู่ในแนวเดียวกับคางหรือเบี่ยงไปข้างใดข้างหนึ่ง
- ปิดรูจมูกข้างหนึ่ง แล้วหายใจเข้า-ออก จากนั้นเปลี่ยนไปปิดรูจมูกอีกข้าง หากพบว่าข้างใดข้างหนึ่งหายใจลำบาก อาจเป็นสัญญาณว่ากระดูกอ่อนในโพรงจมูกเอียง
- สังเกตอาการคัดจมูกเรื้อรังหรือเสียงลมหายใจที่แตกต่างกันระหว่างสองข้าง หากมีความผิดปกติร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติม
ป้องกันจมูกเอียงได้หรือไม่ ทำด้วยวิธีไหนได้บ้าง?
เพราะการสัมผัสจมูกด้วยแรงกดที่มากเกินไป อาจส่งผลต่อกระดูกอ่อนของจมูก โดยเฉพาะ พฤติกรรมอย่างการบีบจมูกแรง ๆ หรือนวดกดบริเวณสันจมูกบ่อย ๆ อาจทำให้แนวกระดูกและกระดูกอ่อนเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งหากผู้ที่ผ่านการเสริมจมูกมาแล้ว ทำการกดหรือจับจมูกแรงเกินไปอาจทำให้แท่งซิลิโคนหรือวัสดุเสริมที่ใช้เกิดการเคลื่อนที่ จนทำให้จมูกเบี้ยวผิดรูปได้
ทั้งนี้ นอกจากพฤติกรรมการ บีบ จับ ที่จมูกแรง ๆ แล้ว อีกสิ่งที่ควรระวังคือการที่จะมูกจะโดนกดทับโดยไม่ทันระวัง เช่น ช่วงระหว่างนอนหลับ ดังนั้น การป้องกันความเสี่ยงนี้คือ “การเลือกท่านอนที่เหมาะสม” เพราะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดโอกาสการกดทับโครงสร้างจมูก โดยเฉพาะในช่วงหลังเสริมจมูก ควรหลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหรือนอนตะแคงทับจมูกเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้เกิดแรงกดที่ส่งผลต่อแนวแกนของจมูกในระยะยาวนั่นเอง
เนื่องจากการกระแทกบริเวณจมูกอาจทำให้เกิดการเบี้ยวหรือคดได้ โดยเฉพาะหากได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรงจากอุบัติเหตุหรือกิจกรรมบางประเภท เช่น การเล่นกีฬาที่มีการปะทะโดยตรงอย่างฟุตบอล บาสเกตบอล หรือมวย ฯลฯ ดังนั้น หากจำเป็นต้องเข้าร่วมกิจกรรมเหล่านี้ ควรมีการป้องกันที่เหมาะสม เช่น การสวมอุปกรณ์ป้องกันใบหน้าอย่างเฟซการ์ดหรือเฮดการ์ดเพื่อลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บด้วย
นอกจากนี้ ควรเพิ่มความระมัดระวังในกิจกรรมที่อาจเสี่ยงต่อการลื่นล้มหรือเกิดอุบัติเหตุ เช่น การขี่จักรยาน การขับขี่มอเตอร์ไซค์ หรือการเดินขึ้นลงบันไดที่อาจทำให้เสียการทรงตัวและล้มกระแทกได้ หากเกิดอุบัติเหตุและศีรษะหรือจมูกได้รับแรงกระแทก ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจสอบว่ามีความผิดปกติหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในระยะยาว
การเลือกแพทย์ที่มีความรู้และความสามารถในด้านการเสริมจมูกเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากแพทย์ขาดทักษะที่ดีพอ อาจทำให้การวางแท่งซิลิโคนหรือวัสดุเสริมไม่สมดุล หรือเกิดการรัดตัวของเนื้อเยื่อผิดปกติ ซึ่งเป็นปัจจัยที่อาจทำให้จมูกเอียงได้นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการป้องกันจมูกเอียงทั้งหมดอาจเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดจากกรรมพันธุ์หรือโครงสร้างกระดูกโดยธรรมชาติ แต่การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมก็สามารถช่วยลดความเสี่ยงของจมูกเอียงที่เกิดจากปัจจัยภายนอกได้ อีกทั้งยังช่วยรักษาแนวโครงสร้างของจมูกให้คงอยู่ในตำแหน่งที่สมดุลมากที่สุด

วิธีแก้ไขหากจมูกเอียง ที่คนเสริมจมูกควรรู้จัก
สำหรับผู้ที่มีปัญหาจมูกเอียงเพียงเล็กน้อย การใช้เทคนิคแต่งหน้าเป็นวิธีที่ง่ายและไม่ต้องพึ่งพาหัตถการทางการแพทย์ การใช้คอนทัวร์สามารถช่วยสร้างเงาและมิติให้ใบหน้า ทำให้จมูกดูสมดุลขึ้น โดยมีหลักการสำคัญคือการใช้สีเข้มคอนทัวร์บริเวณด้านที่ต้องการปรับให้ดูสมดุล และใช้ไฮไลต์สีอ่อนตรงสันจมูกเพื่อเน้นให้ดูโดดเด่นขึ้น
อย่างไรก็ตาม เทคนิคนี้เป็นเพียงวิธีชั่วคราวที่ช่วยปรับลุคให้ดูดีขึ้นเท่านั้น และต้องอาศัยความชำนาญในการแต่งหน้าเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติ
การออกกำลังกายใบหน้าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่อาจช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และช่วยให้กล้ามเนื้อใบหน้ามีความสมดุลมากขึ้น ในบางกรณีที่จมูกดูเอียงเพราะกล้ามเนื้อใบหน้าไม่เท่ากัน การนวดเบา ๆ อาจช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณจมูกและแก้มเกิดความผ่อนคลายมากขึ้น
เทคนิคการนวดที่นิยมใช้คือการใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางกดเบา ๆ บริเวณข้างจมูก แล้วลากขึ้นไปตามแนวสันจมูก ทำซ้ำประมาณ 5-10 ครั้งต่อวัน อย่างไรก็ตาม วิธีนี้อาจไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนสำหรับทุกคน และเหมาะสำหรับกรณีที่จมูกดูเอียงจากความไม่สมมาตรของกล้ามเนื้อใบหน้ามากกว่าการเอียงจากโครงสร้างกระดูก
การฉีดฟิลเลอร์เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันสำหรับผู้ที่ต้องการปรับแก้จมูกเอียงโดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับกรณีที่จมูกเอียงเล็กน้อยจากการเสริมจมูก หรือโครงสร้างกระดูกที่ไม่ได้เบี้ยวมากนัก
โดยวิธีนี้ แพทย์จะฉีดสารเติมเต็ม (Filler) ในบริเวณที่ต้องการปรับสมดุลของจมูก เพื่อให้ดูตรงขึ้นและสมมาตรมากขึ้น ข้อดีของวิธีนี้คือสามารถเห็นผลได้ทันที ไม่ต้องพักฟื้น และหากไม่พอใจผลลัพธ์สามารถแก้ไขได้โดยการฉีดสลาย อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์ไม่ถาวร โดยปกติจะอยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือนขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้
หากจมูกเอียงมากจนส่งผลต่อบุคลิกภาพหรือการหายใจ การแก้ไขด้วยการผ่าตัดเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด โดยศัลยแพทย์จะทำการประเมินว่าโครงสร้างกระดูกและกระดูกอ่อนของจมูกมีความผิดปกติอย่างไร และเลือกวิธีการผ่าตัดที่เหมาะสม เช่น…..
- การผ่าตัดปรับแต่งโครงสร้างกระดูกจมูก (Rhinoplasty)
ใช้สำหรับการแก้ไขจมูกเอียงที่เกิดจากกระดูกเบี้ยวหรือผิดรูปตั้งแต่กำเนิด หรือจากอุบัติเหตุ - การผ่าตัดแก้ไขซิลิโคนที่เบี้ยวจากการเสริมจมูก (Correction Of Misaligned Silicone Implant)
ในกรณีที่จมูกเอียงจากการศัลยกรรมเสริมจมูก แพทย์อาจต้องนำซิลิโคนออกและปรับแต่งใหม่เพื่อให้ได้รูปทรงที่เหมาะสม - การผ่าตัดแก้ไขผนังกั้นจมูกคด (Septoplasty)
เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาการหายใจจากจมูกเอียงเนื่องจากผนังกั้นจมูกคด
สรุปข้อควรรู้เกี่ยวกับ
“การสังเกตซิลิโคนจมูกเอียงและแนวทางแก้ไข”
จมูกเอียงอาจเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย ทั้งกรรมพันธุ์ อุบัติเหตุ หรือผลข้างเคียงจากการศัลยกรรมเสริมจมูก การตรวจสอบด้วยตนเองสามารถช่วยให้เราสังเกตเห็นความผิดปกติของรูปจมูกตั้งแต่เนิ่น ๆ และเลือกวิธีแก้ไขที่เหมาะสมตามระดับความรุนแรงของอาการ
ในส่วนของแนวทางแก้ไขสำหรับผู้ที่มีจมูกเอียงเล็กน้อย อาจเริ่มต้นจากการใช้เทคนิคการแต่งหน้า, การออกกำลังกายใบหน้า หรือการฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับสมดุลของรูปทรงจมูกก่อน แต่หากจมูกเอียงมากจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต เช่น ทำให้หายใจลำบาก หรือส่งผลต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อพิจารณาวิธีการรักษาที่เหมาะสม เช่น การผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อแก้ไขโครงสร้างของจมูกให้กลับมาตรงและสมดุลมากขึ้น
การดูแลจมูกให้สมดุลและสวยงามไม่ใช่แค่เรื่องของความงามเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับสุขภาพและคุณภาพชีวิตโดยรวม หากพบว่าจมูกเอียงจนส่งผลต่อสุขภาพ ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อให้ได้รับการดูแลอย่างถูกต้องและปลอดภัยที่สุด

เสริมจมูกที่ไหนดี ต้องที่ Solaris Clinic
เพราะเราใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่ ลูกค้าจอง ไปจนถึงวันที่ทำ และ ยัง Follow up ทุกเคสอีก ตั้งแต่ 1-6 เดือนเพื่อให้ความสบายใจ และ ความปลอดภัย ทางคลินิกจะเตรียมความพร้อมให้พนักงานทุกคน สามารถรับคำปรึกษา และ รับปัญหาเบื้องต้นของคนไข้หลังทำ ส่งให้คุณหมอทราบ และแนวทางปฏิบัติ ดังนั้น เราจึงตอบได้เต็มเสียงว่า เราใส่ใจในทุกขั้นตอนหากถามเรื่องความสวย ความงามของงานศัลยกรรม ทางเราจะให้ทางคนไข้ ตัดสินและเลือกเราด้วยตนเอง