- บทความ
-
by solarisclinic
- August 15, 2024
หนังตาตกลงมากกว่าปกติ ลืมตาไม่ขึ้น ตาปรือเหมือนคนง่วงนอนตลอดเวลา ใบหน้าดูเศร้าหมอง ไม่สดใส โฟกัสภาพไม่ได้ หรือเกิดภาพซ้อน อาการที่เกิดขึ้นเหล่านี้ มักเกิดจากภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ปัญหาที่ใครหลาย ๆ คนมองข้าม แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราไม่ควรมองข้ามอาการเหล่านี้นะครับ โดยเฉพาะในวัยทำงานที่ต้องใช้สายตาในการมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือมือถือเป็นเวลานาน ๆ พฤติกรรมเหล่านี้ อาจส่งผลให้กล้ามเนื้อตาอ่อนล้า และเสื่อมประสิทธิภาพลงได้ โดยที่เราไม่รู้ตัว !! อีกทั้งภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ยังสามารถพบได้ในทุกเพศ ทุกวัยอีก วันนี้ Solaris Clinic พร้อมมาอธิบายให้ทุกคนได้เล็งเห็นถึงสิ่งที่จะตามมา หากเกิดปัญหาภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงขึ้น ซึ่งเนื้อหาในบทความนี้ จะหยิบยกรายละเอียดตั้งแต่ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงคืออะไร อะไรคือสาเหตุของภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง และภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงสามารถแก้ไขด้วยการศัลยกรรมได้หรือไม่มาฝากกันครับ
ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง คืออะไร ?
ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Ptosis) คือ ภาวะเปลือกตาตกหรือหนังตาตกลงมาบังลูกตามากกว่าปกติ ซึ่งมีผลมาจากการที่กล้ามเนื้อยกเปลือกตาทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้ลืมตาลืมตาได้ไม่สุด เห็นตาดำไม่ครบวง ทำให้ใบหน้าโดยรวมแลดูไม่สวยงาม และนอกจากปัญหาด้านความสวยงามแล้ว ในด้านการใช้ชีวิตประจำวันก็ได้รับผลกระทบเช่นกันครับ เพราะหากเปลือกตาตกลงมามากจนบังรูม่านตามากเกินไป จะส่งผลต่อทัศนวิสัยหรือการมองเห็นในการใช้ชีวิตประจำวันได้นั่นเองครับ
3 ระดับความรุนแรงของภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
- ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงระดับเริ่มต้น : หากขอบตาบนตกลงมาปิดคลุมทับตาดำมากกว่า 2 มิลลิเมตร ยังไม่ถือว่าเป็นความรุนแรงที่มากนัก และยังไม่ส่งผลต่อการมองเห็น แต่ส่งผลด้านความสวยงาม หรือทำให้เสียบุคลิกภาพได้
- ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงระดับกลาง : หากขอบตาบนตกลงมาปิดคลุมทับตาดำมากกว่า 3 มิลลิเมตร อาจส่งผลต่อการมองเห็น ทำให้มองเห็นได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
- ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงระดับรุนแรง : หากขอบตาบนนั้นปิดคลุมทับตาดำลงมาเกินกว่า 5 มิลลิเมตร จะส่งผลต่อการมองเห็นเป็นอย่างมาก ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่ดี ไม่สามารถมองเห็นสิ่งรอบตัวได้อย่างชัดเจน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันนั้นเอง
สาเหตุของภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
- กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงตั้งแต่กำเนิด ซึ่งเป็นภาวะที่ได้รับการถ่ายทอดมาทางพันธุกรรม หรือเกิดจากกล้ามเนื้อตาพัฒนาอย่างไม่สมบูรณ์ หรือเส้นประสาทสมองทำงานผิดปกติ ส่งผลให้หนังตาตกทับตาดำมากกว่าปกติ ลืมตาได้ไม่เต็มที่ จนบดบังการมองเห็น
- เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายก็เริ่มเสื่อมถอย รวมไปถึงเส้นประสาทและกล้ามเนื้อต่าง ๆ ซึ่งอาจส่งผลทำให้มีอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้
- การศัลยกรรมตาสองชั้นจากแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้ โดยภาวะแทรกซ้อนนี้จะส่งผลให้ชั้นตาไม่เท่ากัน ลืมตาได้ไม่เต็มที่ รวมไปถึงการออกแบบชั้นตาที่สูงเกินไป อาจก่อให้เกิดปัญหาพังผืดยึดเกาะที่กล้ามเนื้อตา ทำให้มีภาวะหนังตาตกหลังการผ่าตัดได้
- พฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การใช้สายตาในการเพ่งหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือหน้าจอโทรศัพท์เป็นเวลานาน ๆ การขยี้ตาอย่างรุนแรงบ่อยครั้ง การใส่คอนแทคเลนส์เป็นเวลานาน พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนส่งผลให้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้
- การหลั่งสารสื่อประสาทที่ทำงานผิดปกติ (Myasthenia Gravis) หรือโรค MG โรคนี้เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ส่งผลให้การทำงานของสารสื่อประสาทบริเวณช่องว่างระหว่างเส้นประสาทและกล้ามเนื้อบกพร่อง ส่งผลให้มีอาการอ่อนแรงได้ทั่วทั้งร่างกาย รวมทั้งกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้
6 อาการที่บ่งบอกของภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
- สังเกตเห็นว่าตาดำจะไม่เต็มดวง อาจจะเป็นข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง ซึ่งเกิดจากหนังตาหรือเปลือกตาบนตกลงมาต่ำกว่าปกติจนบดบังตาดำ
- ตาปรือ ไม่สามารถลืมตาสุดได้ มีอาการคล้ายคนที่ง่วงนอนตลอดเวลา
- ต้องใช้วิธีการเงยหน้าหรือยกคิ้ว เพื่อให้มองเห็นได้อย่างชัดเจนขึ้น
- ผู้ที่มีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง จะสังเกตเห็นว่าเบ้าตาจะลึกมากกว่าปกติ ตาดูโหล ดูโทรม ซึ่งส่วนใหญ่จะพบได้ในผู้ที่มีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง หรือผู้สูงวัย
- ชอบเลิกคิ้ว เพื่อให้มองเห็นได้อย่างชัดเจนขึ้น จนทำให้เกิดริ้วรอย รอยย่นบริเวณหน้าผาก
- หากมีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเพียงข้างเดียว คิ้วของข้างที่มีอาการจะยกสูงกว่าอีกข้างหนึ่ง
หากท่านใดมีอาการข้างต้น อย่ามองข้ามเด็ดขาดนะครับ เพื่อป้องกันไม่ให้ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงขั้นรุนแรง และมีปัญหาที่ร้ายแรงตามมาควรเข้ามาปรึกษาแพทย์ เพื่อทำการประเมินและวางแผนการรักษา ซึ่งในการรักษาภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงนั้นมี 2 วิธี คือ การผ่าตัดแก้ไข และการบริหารกล้ามเนื้อตาครับ
การรักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแบบไม่ต้องผ่าตัด
การรักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแบบไม่ต้องผ่าตัดนั้น สามารถทำได้ด้วยการบริหารกล้ามเนื้อตา โดยการกลอกตาขึ้นลง ซ้ายขวา รวมถึงการปรับจุดเพ่งด้วยการใช้นิ้วมือชูขึ้นมาบริเวณกึ่งกลางระหว่างดวงตาทั้งสอง ให้นิ้วมือนั้นอยู่ในระดับสายตา และเลื่อนเข้าหาดวงตาอย่างช้า ๆ จนมองเห็นเป็นภาพทับซ้อน หากฝึกบริหารกล้ามเนื้อตาเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อตา และลดอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงลงได้ แต่วิธีนี้ จะเป็นเพียงการบรรเทาอาการเท่านั้น ไม่ใช่การรักษาให้หายขาด หากระดับความรุนแรงของภาวะกล้ามเนื้อตาอยู่ในเกณฑ์มากกว่าปกติ
การศัลยกรรมแก้ไขภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง โดยการทำตาสองชั้น เทคนิค ICONIC EYES
การศัลยกรรมชั้นตาสองชั้น สามารถแก้ไขภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้ โดยคุณหมอต้อง นายแพทย์ วิษณุ อภัยแสน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการศัลยกรรมปรับโครงสร้างใบหน้าด้วยเทคนิคออกแบบโครงหน้าเฉพาะบุคคลที่ Solaris Clinic จะทำการวิเคราะห์ ประเมินปัญหาชั้นตาของคนไข้อย่างละเอียด พร้อมทำการผ่าตัดแก้ไขด้วยการศัลยกรรมตาสองชั้น เทคนิค ICONIC EYES ที่คุณหมอต้องได้คิดค้นเทคนิคขั้นสูงในการผ่าตัดศัลยกรรมตาสองชั้นที่ทันสมัย และมีความปลอดภัยสูงสุดกับตัวคนไข้ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง นอกจากนี้ คุณหมอต้องยังออกแบบชั้นตาให้มีความเหมาะสมกับคนไข้เฉพาะบุคคล และใช้ความพิถีพิถันในการเย็บแผลอย่างประณีต ทำให้แผลหลังผ่าตัดมีความแนบเนียน บวมช้ำน้อย จึงทำให้ใช้เวลาในการพักฟื้นน้อยอีกด้วยครับ สามารถเข้าชมรายละเอียดของบทความเกี่ยวกับการศัลยกรรมตาสองชั้น เทคนิค ICONIC EYES ได้ที่ ดีไซน์ชั้นตาสวย เส้นคมชัด ด้วยการศัลยกรรมตาสองชั้น ICONIC EYES
8 ข้อปฏิบัติตัวก่อนเข้ารับการศัลยกรรมแก้ไขภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
- งดยา หรืออาหารเสริมทุกชนิดที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด โดยเฉพาะวิตามินซี วิตามินอี และน้ำมันตับปลา ก่อนวันผ่าตัด 2 สัปดาห์
- หากมีโรคประจำตัว เช่น ความดันสูง เบาหวาน และโรคหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนรับการผ่าตัด
- งดแต่งหน้า ติดขนตาปลอม ทาครีม ฉีดน้ำหอม และใส่คอนแทคเลนส์ในวันที่เข้ารับการผ่าตัด
- ควรอาบน้ำ ล้างหน้า และสระผมล่วงหน้าก่อนถึงวันผ่าตัด
- ก่อนเข้ารับการผ่าตัด ควรพักผ่อนให้เพียงพอ
- งดสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 2 – 4 สัปดาห์
- งดฉีดสารคลายกล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตา หน้าผาก หัวคิ้ว และฟิลเลอร์บริเวณส่วนบนของใบหน้าอย่างน้อย 1 เดือน
- หากมีอาการผิดปกติ เกี่ยวกับผิวหนังบริเวณเปลือกตา หรือรอบดวงตา เช่น ตากุ้งยิง ตาบวม ผื่นขึ้นตา ภายใน 2 สัปดาห์ก่อนถึงวันนัดผ่าตัด ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที
ปฏิบัติตัวอย่างไร ? หลังเข้ารับการศัลยกรรมแก้ไขภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
- รับประทานยา และปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- ประคบเย็นบริเวณรอบดวงตา เพื่อลดการบวมช้ำในช่วง 3 วันแรก และประคบอุ่นต่อประมาณ 1 อาทิตย์
- ใช้สำลีก้านชุบน้ำเกลือเช็ดรอบดวงตาอย่างน้อย 1 – 2 ครั้งต่อวัน เพื่อทำความสะอาดบริเวรณรอบดวงตา
- เพื่อลดโอกาสแผลติดเชื้อ รวมทั้งเพื่อให้แผลสมานตัวได้เร็วขึ้น ควรงดการโดนน้ำบริเวณรอบดวงตาอย่างน้อย 10 วัน
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือจับบริเวณรอบดวงตา
- ควรนอนยกศีรษะให้สูงในช่วง 7 วันหลังผ่าตัด เพื่อลดอาการบวมช้ำ
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกแรงอย่างหนัก หรือการออกกำลังกายที่จะทำให้เหงื่อออกเยอะ
- งดการสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์
- งดทานอาหารทะเล และอาหารรสจัด เพราะอาหารทะเลมีโซเดียมสูง ส่งผลให้แผลหายบวมได้ช้า หรืออาจระคายเคืองที่แผลมากยิ่งขึ้น
- งดรับประทานอาหารหมักดอง เพราะของหมักดองอาจมีเชื้อแบคทีเรียสะสมอยู่ ซึ่งส่งผลให้แผลอักเสบ หรือติดเชื้อได้
ทำไมต้องศัลยกรรมแก้ไขภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงที่ Solaris Clinic ?
- คุณหมอต้อง คือแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการศัลยกรรมมากกว่า 10 ปี
- คุณหมอต้องมีความเชี่ยวชาญ สามารถวิเคราะห์ปัญหา, ความต้องการของคนไข้ และนำไปวางแผนการผ่าตัดแก้ไขปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้อย่างถูกต้อง ตรงจุด และแม่นยำ
- นอกจากการแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแล้ว โดยการใช้เทคนิค ICONIC EYES เทคนิคเฉพาะในการศัลยกรรมตาสองชั้นของคุณหมอต้อง ซึ่งเป็นการนำเทคนิคศัลยกรรมตาสองชั้นจากประเทศเกาหลีมาผสมผสานกับทฤษฎีหลักสัดส่วนทองคำ (Golden Ratio) เพื่อให้คนไข้ได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และมีความปลอดภัยมากที่สุด
- คุณหมอต้องมีความเชี่ยวชาญให้การศัลยกรรมตาสองชั้น ไม่ว่าจะเป็นการทำตาสองชั้นเพื่อความสวยงาม หรือการศัลยกรรมตาสองชั้น เพื่อแก้ไขความบกพร่องต่าง ๆ ได้ อาทิเช่น อาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง หนังตาตก และตาหอยแครง เป็นต้น
- เทคนิคเฉพาะในการผ่าตัดของคุณหมอต้องมีความละเอียด พิถีพิถัน และประณีต ทำให้แผลหลังการผ่าตัดเรียบเนียน มีความบวมช้ำน้อย และไม่ต้องพักฟื้นนาน
- การันตีผลงานด้วยรีวิวจากผู้รับบริการด้านการศัลยกรรมจริงมากกว่า 5,000 เคส
- คุณหมอต้องมีการพัฒนาและอัปเดตเทรนด์การศัลยกรรมใหม่ ๆ จากการอบรมในต่างประเทศอย่างสม่ำเสมอ
- คุณหมอต้องเป็นที่ปรึกษาที่ดีให้แก่คนไข้ มีความเข้าอกเข้าใจในแต่ละปัญหาของคนไข้เป็นอย่างดี
- คุณหมอต้องไม่ขายฝัน มีความชัดเจน ตรงไปตรงมาในการให้ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้คนไข้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจก่อนการศัลยกรรม
- คุณหมอต้อง Solaris Clinic มีความจริงใจต่อคนไข้ ไม่ยัดเยียด และคัดสรรเฉพาะสิ่งที่ดีที่สุดแก่คนไข้ รวมไปถึงวัสดุทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน และมีความปลอดภัยสูงสุด
เพราะคุณหมอต้อง นายแพทย์ วิษณุ อภัยแสน เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการศัลยกรรมปรับโครงสร้างใบหน้าด้วยเทคนิคออกแบบโครงหน้าเฉพาะบุคคลที่ Solaris Clinic ซึ่งประสบการณ์ในการทำศัลยกรรมมามากกว่า 10 ปีของคุณหมอต้อง ทำให้คุณหมอต้องผ่านการทำศัลยกรรมตาสองชั้นแก้ไขภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงกับคนไข้หลากหลายคน อีกทั้งยังออกแบบรูปทรงตาให้มีความเหมาะสมกับคนไข้แต่ละราย ด้วยเทคนิคเฉพาะของคุณหมอต้องอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้เอง คุณหมอต้องจึงไม่เคยหยุดเรียนรู้ และพัฒนาเทคนิค ที่ใช้ในการศัลยกรรมขั้นสูงผ่านการอบรมจากต่างประเทศ โดยคุณหมอต้องได้เข้ารับการอบรมอัพเดทเทรนด์เทคนิคการทำศัลยกรรมตาสองชั้นจากอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญอันดับต้น ๆ ของประเทศเกาหลีที่ Korean College of Cosmetic Surgery & Medicine กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อเป็นการตอบแทนความไว้วางใจของคนไข้ทุกคนที่ไว้วางใจ พร้อมทั้งเชื่อมั่นในตัวคุณหมอต้อง และSolaris Clinic ทำให้คุณหมอต้องสามารถมอบผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างแม่นจำ ตรงจุด และมีความปลอดภัยกับตัวคนไข้สูงสุดอีกด้วย